บีเอ็มดับเบิลยูเผยยอดจดทะเบียนบีเอ็มดับเบิลยู Luxury Class เติบโต 46%

Spread the love

 

บีเอ็มดับเบิลยูเผยยอดจดทะเบียนบีเอ็มดับเบิลยูในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ครองตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมอย่างต่อเนื่อง ด้านยอดจดทะเบียนบีเอ็มดับเบิลยู Luxury Class เติบโต 46% ขณะที่กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของบีเอ็มดับเบิลยู มียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 341% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2566 ด้วยยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรวมทั้งหมด 12,304 คันในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมนับเป็นการสร้างสถิติยอดจดทะเบียนรวมตลอด 10 เดือนแรกที่สูงที่สุดสำหรับบีเอ็มดับเบิลยูประเทศไทย

 

นอกจากนี้ ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของบีเอ็มดับเบิลยู มียอดจดทะเบียนในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 เติบโตสูงขึ้นถึง 341% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า โดย ณ ปัจจุบัน มียนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด นำเสนอแก่ลูกค้าถึง 7 รุ่น

 

ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4, บีเอ็มดับเบิลยู i5, บีเอ็มดับเบิลยู i7, มินิ คูเปอร์ เอสอี และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู CE 04 ในขณะเดียวกัน รถยนต์หรูในกลุ่ม Luxury Class ของบีเอ็มดับเบิลยูยังมีการเติบโตจากช่วงมกราคมถึงเดือนตุลาคมปีก่อนหน้าถึง 46% ซึ่งลูกค้าจะได้สัมผัสรถยนต์กลุ่มนี้ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู XM, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 และบีเอ็มดับเบิลยู X7” มร. บารากากล่าว

 

สำหรับไฮไลท์รถยนต์ภายในงาน บีเอ็มดับเบิลยู XM Label Red นำทัพสุดยอดยนตรกรรม โดยเป็นรถยนต์ในตระกูล XM ซึ่งผลิตมาในจำนวนจำกัดและยังถือเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู M ที่มาพร้อมสมรรถนะสูงสุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมด้วย บีเอ็มดับเบิลยู 740d M Sport ที่ออกแบบมาเพื่อมอบทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ที่ยังคงให้ประสบการณ์การขับขี่ไดนามิคแบบซีดานอย่างแท้จริงตามแบบฉบับในซีรีส์ 7

 

ส่วนแฟน ๆ ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสปอร์ตเตรียมพบประสบการณ์ใหม่ที่เร้าใจแบบคูเป้จากรถยนต์ในซีรีส์ 4 กับบีเอ็มดับเบิลยู 420i Coupe M Sport โดยทั้งสามรุ่นพร้อมรับจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

สำหรับแฟน ๆ มินิเตรียมสัมผัส มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Final Edition ในรูปแบบแฮทช์ 5 ประตู เจ้าของคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาในสีล่าสุดไม่เหมือนใคร และมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Mayfield Edition ซึ่งถักทอแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามและเงียบสงบของทุ่งลาเวนเดอร์ในย่านเมย์ฟิลด์ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งรถสองรุ่นพิเศษนี้ผลิตมาในจำนวนจำกัด

 

โดยมินิ คลับแมน Final Edition มีจำหน่ายเพียง 50 คัน และมินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ Mayfield Edition มีจำหน่ายเพียง 12 คันในประเทศไทยเท่านั้นสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เตรียมก็ได้ส่งมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นสู่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure มาในสี Racing Blue Metallic ใหม่ ที่จะมาเติมความสมบูรณ์แบบให้กับสุดยอดมอเตอร์ไซค์แบบเอ็นดูโร่ พร้อมพาเหล่านักบิดค้นหาความเป็นไปได้ในทุกเส้นทาง

 

สัมผัสความสุขในการขับขี่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ด้วยแพ็คเกจบริการดูแลบำรุงรักษาที่ได้รับการดีไซน์มาเพื่อเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่พ้นระยะ BMW Service Inclusive หรือ MINI Service Inclusive (ไม่เกิน 15 เดือน) โดยแพ็คเกจบริการดังกล่าวครอบคลุมการดูแลบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร ประกอบด้วยบริการ 7 รายการ

 

ได้แก่ เปลี่ยนถ่ายและเติมน้ำมันเครื่อง ตรวจสอบสภาพรถยนต์ เปลี่ยนไส้กรองอากาศ เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนไมโครฟิลเตอร์ เปลี่ยนหัวเทียน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก โดยช่างผู้ชำนาญการที่ได้รับการรับรองจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เพื่อให้เจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูและมินิสบายใจได้ว่าจะได้รับการบริการที่ผ่านการรับรองด้วยอะไหล่แท้จากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในแพ็คเกจที่คุ้มค่าที่สุด

 

และเมื่อรวมกับโปรแกรม Care and Value Added ที่ให้ส่วนลดค่าอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งสูงสุดถึง 25% เจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยูและมินิสามารถอุ่นใจได้ยิ่งกว่าที่เคยตลอดระยะเวลาการขับขี่

สัมผัสทัพยนตรกรรมใหม่หลากหลายรุ่นพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษของบีเอ็มดับเบิลยูในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 จัดขึ้น ณ อาคาร IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566

Scroll to Top