“JST ERP” ติดปีกพ่อค้า – แม่ค้าออนไลน์โตยั่งยืน

Spread the love

 

JST ERP ผู้ให้บริการระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ครบวงจร อันดับ 1 ในจีน 4 ปีซ้อน ติดปีกธุรกิจออนไลน์เติบโตยั่งยืน ใช้ไทยเป็นฮับบุกตลาดอาเซียน 

 

อลิค เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเอสที อีอาร์พี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า JST ERP เป็นผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์ครบวงจร (E-Commerce SaaS ERP) ตลอดจน Ecosystem ของธุรกิจออนไลน์ชั้นนำของประเทศจีนที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10 ปี เป็นระบบ ERP อันดับหนึ่งในประเทศจีน 4 ปีซ้อน มีลูกค้าใช้บริการ เช่น Alibaba, Taobao, Tmall, JD, Douyin(TikTok), PDD, Red, Dewu และอีคอมเมิร์ซมาร์เกตเพลสอีกมากมาย

 

ทั้งนี้มีความเสถียรภาพสูง วางระบบบนอาลีบาบาคลาวน์ สำรองข้อมูลแบบเรียลไทม์ มีความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมประสิทธิภาพสูงรองรับจนมีแผนขยายตลาดออกไปทุกภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดกกว่า 6,000 ล้านหยวน หรือ 30,000 ล้านบาท รวมถึงภูมิภาคอาเซียนที่ตลาดอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโต โดยเฉพาะประเทศไทย จึงได้ก่อตั้งบริษัท เจเอสที (ประเทศไทย) เพื่อทำตลาดในประเทศไทยเต็มรูปแบบ

 

อีกทั้งเป็นประเทศที่มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และยังเป็นฮับด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค บริษัทได้วางแผนใช้สำนักงานใหญ่ในไทยเป็นฮับบุกขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว

 

 

JST ERP มองตลาดอีคอมเมิรซ์ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในภูมิภาคนี้ เนื่องจากตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว เนื่องจากคนไทยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่สามารถปรับตัวสู่การขายของออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา มีความพร้อมด้านการขนส่ง และระบบการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด ส่งผลให้กลุ่มแม่ค้าออนไลน์ ไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ และแบรนด์ขนาดใหญ่ที่ผันตัวเองมาขายสินค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

 

ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีความต้องการนำระบบร้านค้าออนไลน์เข้ามาช่วยบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพร้านค้าเพื่อให้ทันต่อการเติบโตของธุรกิจและขยายธุรกิจได้ในระยะยาว ซึ่งตัวระบบ JST ERP เข้ามาตอบโจทย์ช่วยลดต้นทุนและเวลาการทำงานลงถึง 20-30 % และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นถึง 3 เท่าขึ้นไป

 

JST มองเห็นศักยภาพด้านตลาดอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากธุรกิจออนไลน์ไทยมีจุดแข็งด้านโซเซียลคอมเมนท์ไลฟ์สด ขายสินค้าผ่าน Facebook ,TikTok และ IG เนื่องจากถนัดสร้างตัวตนและมีฐานแฟนที่เหนียวแน่น แต่ยังติดข้อจำกัด การเข้าถึงระบบบริหารจัดการร้านที่มีบริการเกี่ยวกับการขายแบบครบวงจร

 

ตั้งแต่ระบบจัดการออเดอร์คำสั่งซื้อจากทุกช่องทางแบบเรียลไทม์ จัดการสต๊อก คลังสินค้า การจัดการขนส่งโลจิสติกส์ และระบบบัญชีหลังบ้าน มีประสิทธิภาพจัดการได้แบบเรียลไทม์ เพราะคนกลุ่มนี้ขายความน่าเชื่อถือ หากระบบมีปัญหา จัดส่งสินค้าไม่ตรงกำหนดหรือส่งสินค้าผิด จะทำลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในทันที

 

อลิค กล่าวต่อว่า หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ให้ประสบผลสำเร็จเติบโตในระยะยาวและมีความยั่งยืน จะต้องมีการนำระบบจัดการธุรกิจออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในตลาดอีคอมเมิร์ซเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ที่สามารถช่วยลดต้นทุน และลดเวลาการทำงาน รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นการทำงาน สามารถปรับปรุงอัปเกรดรองรับเทคโนโลยี หรือช่องทางขายใหม่ๆ

 

 

สำหรับตลาดประเทศไทย มี 4 แพคเกจ ที่เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่เริ่มต้นไปจนกลายเป็นธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่จะช่วยให้ให้ธุรกิจออนไลน์ไทยเติบโตบนโมเดลธุรกิจของตัวเองในระยะยาว

 

แพคเกจที่ 1 Just Shop ระบบดูดไลฟ์ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ ตัวช่วยให้สามารถดูไลฟ์และจัดการคำสั่งซื้อได้สะดวกและแม่นยำจากทุกช่องทางขายผ่านไลฟ์สด

 

แพคเกจที่ 2 OMS Lite ระบบไลฟ์สด จัดการออเดอร์บนโซเซียลคอมเมิร์ซ สำหรับร้านค้าขนาดกลางที่มีช่องทางขายหลากหลายช่องทางทั้งบน Facebook, TikTok, Instagram ที่ต้องการตัวช่วยจัดการออเดอร์ รวมออเดอร์ และการรวมแชทจากทุกช่องทางขาย

 

แพคเกจที่ 3 OMS Pro ระบบจัดการออเดอร์บนโซเชียลคอมเมิร์ซ และอี-มาร์เกตเพลสที่ต้องการจัดการสต๊อกสินค้าอย่างละเอียด และเชื่อมโยงสต๊อกบนโซเชียลคอมเมิร์ซ และอี-มาร์เกตเพลส จับกลุ่มลูกค้าขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่

 

แพคเกจที่ 4 WMS ระบบจัดการคลังสินค้าบนโซเชียลคอมเมิร์ซ เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่และมีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง พร้อมการจัดการคลังสินค้าครบวงจร เหมาะกับร้านขนาดใหญ่ที่มีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง

Scroll to Top