รพ.พระราม 9 มั่นใจเอไอจะช่วยดันรายได้ 1 หมื่นล้านใน 5 ปีข้างหน้า

Spread the love

 

โรงพยาบาลพระรามเก้า วางเป้าหมายรายได้ 1 หมื่นล้านบาทในอีก 5 ปี ชี้แนวโน้มต้องการรักษาโรคซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น พร้อมบุกตลาดอาหรับ ทดแทนลูกค้ากลุ่มจีนนิ่ง เหตุเศรษฐกิจถดถอย พร้อมจับมือ 7 โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย ร่วมบูรณาการเทคโนโลยี AI เพื่อการแพทย์ขั้นสูง

 

นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 โรงพยาบาลฯ มีอัตราการเติบโตที่ 9% หรือคิดเป็น 2,900 ล้านบาท คาดการณ์ว่าทั้งปีจะสามารถมีรายได้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยการดำเนินงานนั้นทางโรงพยาบาลฯ ยังคงเดินหน้าที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโยลีเข้ามาตอบสนองการรักษาคนไข้อย่างต่อเนื่อง

 

รวมถึงยังวางเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ขึ้นมาเป็น 1 หมื่นล้านบาทภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีนับจากนี้ เนื่องจากมองว่าในอนาคตแนวโน้มผู้ป่วยที่เป็นโรคซับซ้อนจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งค่ารักษาต่อเคสจะเติบโตขึ้น รวมถึงโรงพยาบาลฯ ยังจะมีการขยายพื้นที่ให้บริการและเพิ่มในส่วนของไอซียูมากกว่าเดิม ทำให้รายได้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน

 

ขณะเดียวกันยังจะมุ่งขยายฐานลูกค้าต่างชาติให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 14-15% โดยจะเห็นได้ว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยมากขึ้น แม้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักอย่างตลาดจีน จะยังไม่เติบโตตามเป้าหมายมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศดังกล่าวชะลอการเติบโต จึงต้องขยายลูกค้าไปยังกลุ่มอาหรับให้มากขึ้น จะช่วยผลักดันให้ลูกค้าต่างชาติขยับสัดส่วนขึ้นมาเป็น 20%

 

“มองว่าการมีรัฐบาลใหม่เข้ามา จะทำให้ภาคเอกชนมั่นใจมากขึ้น และหากรัฐบาลได้มีการผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก็ยิ่งจะเป็นผลดีกับธุรกิจโรงพยาบาลที่มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยโรงพบาลฯ ก็จะทำการตลาดอย่างเข้มข้นในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีและอาหรับ โดยเฉพาะเมียนมา และกัมพูชา ที่ทำตลาดอยู่แล้วก็จะเจาะลึกให้มากขึ้น”

 

 

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลยังได้ร่วมกับ 7 โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย อันได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง, โรงพยาบาลนวเวช, BBH Hospital จับมือ บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Naver Cloud Corp.,) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSP) จากเกาหลีใต้

 

จัด “สัมมนาเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าสู่อนาคต และความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทางการแพทย์ ระหว่างไทย-เกาหลี (DHTC BANGKOK 2023 : Digital Healthcare Transformation Conference)” ครั้งแรกกับการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์

 

“นับว่าเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีกับบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ และยังได้รับความร่วมมือจาก โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย มาร่วมเป็นพันธมิตร ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ในการพัฒนาและบูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อความก้าวหน้าในการดูแลสุขภาพขั้นขีดสุด”

 

ด้านนายแพทย์วิทยา วันเพ็ญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ความร่วมมือกันครั้งนี้ จะเป็นการทดลองใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์จากบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย

 

ทั้งยังเป็นโอกาสให้โรงพยาบาลชั้นนำอื่น ๆ อีกหลายแห่งในประเทศไทย ตลอดจนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้พบปะผู้เชี่ยวชาญและสัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์อีกด้วย

 

ด้าน รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันและที่ปรึกษาศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ โรงพยาบาลพระรามเก้า หรือ Praram9V กล่าวว่า สำหรับงานครั้งนี้ จะเน้นเรื่องเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าสู่อนาคตและความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทางการแพทย์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ร่วมกัน ระหว่างไทยและเกาหลี เราได้รวบรวมบริษัทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์

 

พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีและประเทศไทยมาเข้าร่วมในการสัมมนา และมีการแสดง การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อาทิ การนำเสนอบทบาทของ AI ในการรักษา เช่น การใช้ AI ทำนายโรคจากข้อมูลทางพันธุกรรม หรือการใช้ AI ช่วยในการแปลงภาพทางการแพทย์ เป็นต้น ทั้งยังมีการนำเสนอผลการทดลองใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ทางโรงพยาบาลได้ร่วมพัฒนากับบริษัทของประเทศเกาหลีอีกด้วย

 

“เราเชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาททางการแพทย์มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ ในฐานะหนึ่งในสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของเมืองไทย เราจะมุ่งมั่นต่อยอด และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ ทั้งจะส่งเสริมการบูรณาการเทคโนโลยี AI ขั้นสูงในการดูแลสุขภาพเพื่อให้โรงพยาบาลพระรามเก้า เป็นโรงพยาบาลเอกชนผู้นำทางด้าน Digital healthcare เพื่อเป็น digital hospital อย่างเต็มรูปแบบโดยแท้จริง”

Scroll to Top