เอ็กโซติค ฟู้ด เลือก RISE with SAP แก้ความซับซ้อนธุรกิจเพิ่มกำไร

Spread the love

 

ธุรกิจส่งออกอาหารนอกจากจะต้องควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ทางธุรกิจ ดำเนินกระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ให้ดีแล้ว ความปลอดภัยของอาหารก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ในการรักษาความน่าเชื่อถือ ด้วยความซับซ้อนในหลาย ๆ ด้านนี่เอง ธุรกิจอาหารจึงจำเป็นต้องมีโซลูชันด้านไอทีที่แอดวานซ์และเหมาะสม เข้ามาช่วยในการบริการจัดการ

 

เอ็กโซติค ฟู้ด ประเทศไทย (Exotic Food) ผู้ส่งออกอาหารไทยที่ได้มีการขยายการเติบโตทางธุรกิจไป 80 กว่าประเทศทั่วโลก มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 800 รายการ (SKU) จึงทำให้บริษัทกลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะผู้ผลิตเครื่องปรุงรสไทย

 

ด้วยยอดขายทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นการใช้งานระบบไอทีแบบเดิมไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป ประกอบกับในช่วงการระบาดของ โควิด-19 คำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้คนอยู่บ้านและมีการทำอาหารกันมากขึ้นทำให้ระบบ ERP ภายในองค์กรที่ใช้อยู่ของ เอ็กโซติค ฟู้ด ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ไม่สามารถปรับขนาดได้ โดยระบบไอทีที่เคยใช้อยู่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป

 

 

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เอ็กโซติค ฟู้ด จึงต้องหาโซลูชันใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ทางธุรกิจใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ RISE with SAP ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 และโฮสต์บน Amazon Web Services (AWS) ได้สำเร็จ ซึ่งการเลือกใช้ RISE with SAP นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงระบบ Cloud ERP ที่ขับเคลื่อนด้วย AI-powered โครงสร้างพื้นฐาน และบริการ

 

โดยย้ายระบบ ERP ไปยังคลาวด์ นอกจากนี้ SAP S/4HANA Cloud ทำให้โซลูชัน RISE with SAP ช่วยให้ เอ็กโซติค ฟู้ด สามารถบูรณาการฟังก์ชันทางธุรกิจ ปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงาน และปรับปรุงด้านการตัดสินใจทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ได้ การเปลี่ยนไปใช้โฮสติ้งบนคลาวด์ของ AWS ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรอีกด้วย

 

วาสนา จันทรัช ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การตัดสินใจใช้ RISE with SAP บน AWS ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการดำเนินธุรกิจของเราอย่างแท้จริง ทำให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่การเติบโตและนวัตกรรมในตลาดโลกได้ SAP S/4HANA Cloud จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโหลดในการดำเนินงานของเรา

 

ในขณะเดียวกันก็จะช่วยรักษาศักยภาพของพนักงานของเรา ระบบ SAP S/4HANA Cloud ยังมีส่วนช่วยปรับปรุงกระบวนการด้านการเงินในแผนกต่าง ๆ ทำให้เรามองเห็นภาพรวมได้ดีขึ้น และช่วยให้เราสามารถทำงานแบบอัตโนมัติได้ ตั้งแต่การคำนวณคำสั่งซื้อ การจัดการสินค้าคงคลัง ไปจนถึงการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อ

 

 

นอกจากนี้ ระบบ ERP บนคลาวด์ยังช่วยเราจัดการกำหนดค่าผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เราสามารถเข้าถึงผู้ที่มีความชื่นชอบอาหารทั่วโลกได้มากขึ้นในเวลาเพียงสั้น ๆ

 

SAP S/4HANA Cloud ยังช่วยให้ เอ็กโซติค ฟู้ด ลดภาระในการงาน และช่วยให้สามารถปิดบัญชีสิ้นเดือนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยการปรับปรุงกระบวนการด้านการเงิน โดยก่อนหน้านี้ กระบวนการนี้ค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากต้องตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลต้นฉบับซ้ำ ๆ หลายครั้ง

 

การบันทึกและการตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ด้วยหารใช้ระบบ SAP S/4HANA Cloud จึงทำให้สามารถการจัดทำรายงานทางการเงินได้ในเวลาที่สั้นลง และมีข้อผิดพลาดน้อยลง ทำให้กระบวนการการทำงานโดยรมมีความรวดเร็วขึ้นมาก ซึ่งระยะเวลาที่ต้องใช้ในการปิดบัญชีรายเดือนลดลงจาก 18 วันเหลือเพียง 8 วันเท่านั้น

 

การตรวจสอบข้อมูล การวางแผนการผลิต และระบบอัตโนมัติ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหาร ก่อนหน้านี้ ข้อมูลทางธุรกรรมและการบันทึกข้อมูลจะถูกบันทึกบนกระดาษ ทำให้การค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาตรวจสอบด้านการเงินเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ

 

 

เมื่อข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจเหล่านี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ในระบบดิจิทัลและย้ายไปยัง SAP S/4HANA Cloud แล้ว เอ็กโซติค ฟู้ด จึงมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น งานตรวจสอบย้อนหลังต่างๆ ที่เคยใช้เวลา 4 ชั่วโมง ปัจจุบันใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งลดลงถึง 99 เปอร์เซ็นต์

 

ทำให้ เอ็กโซติค ฟู้ด สามารถมีบันทึกธุรกรรมทางธุรกิจที่โปร่งใสและพร้อมสำหรับการตรวจสอบ และทำให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นการทำงานไปที่งานเชิงกลยุทธ์ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนวัตกรรมและผลผลิตได้เป็นอย่างมาก

 

นอกจากนี้ ระบบอัตโนมัติยังช่วยให้องค์กรลดขั้นตอนการทำงานด้วยการใช้มือของพนักงานหลายขั้นตอน อาทิ ทำให้เวลาที่ใช้ในการตรวจนับสต๊อกลดลงจาก 2 วันเหลือเพียงครึ่งวันโดยเฉลี่ย หรือลดลงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้พนักงานมีเวลาไปทำภารกิจอื่น ๆ ที่สำคัญต่อธุรกิจได้

 

 

ด้าน กุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP กล่าวว่า ความสำเร็จของ เอ็กโซติค ฟู้ด ประเทศไทย ในการเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ระบบคลาวด์ด้วย RISE with SAP ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถและประสิทธิภาพที่โซลูชัน SAP มอบให้ ด้วยการจัดการข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น

 

รวมทั้งการมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีความโปร่งใส เอ็กโซติค ฟู้ด จึงสามารถปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจของฝ่ายบริหารสะดวกยิ่งขึ้น และทำให้ทีมงานสามารถมุ่งเน้นไปที่ผลผลิตได้มากขึ้น

 

ด้วยระบบ SAP S/4HANA Cloud เอ็กโซติค ฟู้ด สามารถเพิ่มโซลูชันใหม่ๆ เข้าไปได้อย่างยืดหยุ่น และสามารถเร่งนวัตกรรมผ่านความสามารถที่ขับเคลื่อนแบบ AI-powered บนคลาวด์ที่ SAP และระบบนิเวศของพันธมิตรของเรามอบให้

 

การมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนพร้อมขอบเขต ERP ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน พันธมิตรที่มีประสบการณ์ในการนำ SAP มาปรับใช้ และการสนับสนุนหลังการใช้งานที่แข็งแกร่ง ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ เอ็กโซติค ฟู้ด

 

 

วิศิษฐ์ วิระยากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นทีที เดต้า บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การย้ายระบบ ERP ไปยังคลาวด์เป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลานาน และการทำให้โครงการ go-live เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญ ในฐานะพันธมิตรผู้ดำเนินการในการนำ RISE with SAP มาใช้ให้กับ เอ็กโซติค ฟู้ด ประเทศไทย

 

เรามีความภูมิใจที่ได้นำความเชี่ยวชาญของเราในอุตสาหกรรมการผลิตและอาหารมาช่วยสนับสนุนและทำงานร่วมกับ SAP และลูกค้าของเรา เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ เอ็กโซติค ฟู้ด ขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของพวกเขาในประเทศไทยและทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จ

 

Scroll to Top