แคนนอนบุกตลาดพรินเตอร์ด้วยสินค้าใหม่ขยายลูกค้าราชการ

Spread the love

 

นาย ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ตลาดองค์กรธุรกิจเริ่มกลับมาดีขึ้นหลังโควิด เราเพิ่มไลน์อัปของตลาดนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนตลาดลูกค้าทั่วไปอาจจะไม่โต แต่แคนนอนจะโตให้ได้เพราะเรามองเห็นโอกาส เราจึงได้พัฒนาสินค้าขึ้นมาใหม่ในกลุ่ม G series เป็นมินิอิงค์ หมึกไม่แพง

 

เจาะกลุ่มลูกค้าที่พิมพ์ไม่เยอะ ต่างจากลุ่มแทงค์แท้ที่จะพิมพ์มากกว่า และตั้งเป้าหมายการเติบโตของลูกค้ากลุ่มองค์กรไว้ที่ 20% ในปีนี้ จาก 5-10% ในปีที่ผ่านมา โดยเราจะเจาะตลาดราชการมากขึ้น ใช้งบประมาณทางการตลาด 50 ล้านบาทในปีนี้

 

ตลาดนิ่งเราจึงต้องแอคทีฟตัวเองเพื่อการเติบโต เราต้องไปกินส่วนแบ่งคู่แข่ง สร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าถึงประโยชน์และความคุ้มค่า เราเน้นเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาแคนนอนส่งผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าไม่ทัน เราเลยมั่นใจว่าถ้ามีสินค้าพร้อมส่งมอบเราก็จะโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะแคนนอนมีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแรงมาก

 

“ที่ผ่านมาต้นทุนสูงขึ้นในขณะที่การแข่งขันก็สูงมาก เราจะพิจารณาการดูต้นทุน เราจะต่อรองกับเมืองนอกเพื่อให้ต้นทุนน้อยที่สุด เพราะเราต้องแข่งขันในตลาด ตอนนี้แบรนด์เป็นผู้ถูกเลือก ดังนั้นต้องโฟกัสกับการเข้าหาลูกค้า”

 

โดยปีนี้ได้จัดแคมเปญการตลาดแห่งปี “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วยแคนนอนพรินเตอร์” ภายในงานยังมีการจัด Products and Solutions Showcase เพื่อโชว์ไลน์อัปผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งานของผู้บริโภคทุกระดับ

 

พร้อมเปิดตัวพรินเตอร์ซีรีย์ใหม่ ได้แก่ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์รุ่น G Series แบบ ‘มินิอิงค์’ (G-Series – Mini Ink), อิงค์เจ็ทพรินเตอร์แบบหมึกแทงค์เพื่อธุรกิจ (Business Ink Tank), เลเซอร์พรินเตอร์ (Laser Printers) และพรินเตอร์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะ (Desktop Large Format)

 

ด้านนางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น กล่าวว่า แคนนอนพร้อมกลับมาครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์พรินเตอร์อีกครั้ง หลังจากที่เราสามารถครองตำแหน่งผู้นำพรินเตอร์อันดับ 1 ของตลาดเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2000

 

รวมถึงปี 2022 ที่ผ่านมาซึ่งแคนนอนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 32% เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง และสำหรับในปี 2023 นี้ แคนนอนขอประกาศความพร้อมในการตอบสนองของลูกค้าพรินเตอร์ได้ครบทุกเซกเมนต์ ผ่านการดำเนินงานที่สมบูรณ์แบบใน 4 ด้าน

 

ได้แก่ ความเข้าใจใน Demand (อุปสงค์) ของลูกค้าทุกกลุ่ม การยกระดับ Supply (อุปทาน) ให้เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน ซึ่งก็คือ Product (ผลิตภัณฑ์) คุณภาพสูงที่ใช้ง่าย ไม่มีสะดุด รวมไปถึงการมี Service Partner (พันธมิตรผู้ให้บริการ)

 

แคนนอนเป็นแบรนด์พรินเตอร์ที่มีสาขาให้บริการมากที่สุดถึง 164 แห่งครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์พรินเตอร์ชั้นนำอื่น ๆ ซึ่งเราตั้งใจจะเพิ่มให้ได้ถึง 180 แห่งภายในปีนี้ เพื่อยกระดับความอุ่นใจและความสะดวกสบายแก่ลูกค้าแคนนอนในทุกภูมิภาค

 

“แคนนอนเล็งเห็นว่าธุรกิจ SMEs จะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมาก จึงต้องการสนับสนุนการใช้งานพรินเตอร์ของลูกค้ากลุ่ม B2B มากเป็นพิเศษ ทำให้ทิศทางการพัฒนาและเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่จะพุ่งเป้าหมายไปที่ลูกค้าเหล่านี้”

 

แคนนอนนำเสนอพรินเตอร์ทั้ง INKJET Printer ได้แก่ TS Series, G Series, E Series, GX Series และ LASER Printer ทั้งสีและขาวดำ ที่สามารถตอบทุกความต้องการตั้งแต่การใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจทุกขนาดและหน่วยงานภาครัฐได้อย่างครบครัน

 

แนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แคนนอนยึดมั่นมาโดยตลอดคือ ความง่าย Simple to Use” เพราะเราตระหนักดีว่าชีวิตการทำงานในปัจจุบันมีความยุ่งยากมากพอแล้ว พรินเตอร์จึงต้องเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดจึงเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดประจำปีของแคนนอนนั่นคือ “แคนเซิลทุกเรื่องยากด้วย แคนนอนพรินเตอร์”

 

Scroll to Top