แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า Google Wallet พร้อมให้บริการแล้วในประเทศไทย ผู้ใช้งานสามารถแตะเพื่อจ่ายเงินในร้านค้า หรือเช็คเอาท์ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเข้าถึงบอร์ดดิ้งพาสสำหรับการเดินทางที่เร่งรีบในช่วงเทศกาลได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนการรวมทุกกระเป๋าไว้ในที่เดียวในทุกการเดินทาง ทั้งสะดวกและปลอดภัย
ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพ และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี ทั้งบัตรเครดิต Visa และ Mastercard สามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet และแตะเพื่อจ่ายด้วยโทรศัพท์ Android หรืออุปกรณ์ Wear OS ในร้านค้าที่รองรับการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส และผู้ที่ถือบัตรของทรูมันนี่ (บัตร Prepaid Mastercard) จะสามารถเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet ได้ในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ยังสามารถใช้บัตรชำระเงินใน Google Wallet เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์หรือภายในแอปกับร้านค้าและผู้ให้บริการต่าง ๆ ได้ เช่น Airbnb และดีแทค หรือทุกที่ที่มีปุ่มตัวเลือกการชำระเงินผ่าน Google Pay
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มบอร์ดดิ้งพาสของสายการบินแอร์เอเชียลงใน Google Wallet ซึ่งจะทำให้ได้รับการแจ้งหากเวลาออกเดินทางและประตูขึ้นเครื่องมีการเปลี่ยนแปลง และสามารถผ่านประตูขึ้นเครื่องที่สนามบินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมไปถึงการแตะเพื่อจ่ายได้อย่างปลอดภัยโดยใช้ Google Wallet ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้บัตรจริง
สำหรับการเพิ่มบัตรต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล เช่น บอร์ดดิ้งพาส ลงใน Google Wallet ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ในเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ซื้อตั๋วเครื่องบินจาก airasia Super App ผู้ใช้จะเห็นปุ่ม “เพิ่มลงใน Google Wallet” (“Add to Google Wallet”) ซึ่งบอร์ดดิ้งพาสที่อยู่ใน Google Wallet ของคุณจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล
หากมีบัตรสมาชิกหรือบัตรสะสมคะแนนที่ต้องพกหลายใบจะสามารถใช้ Google Wallet เพื่อจัดเก็บบัตรเหล่านั้นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องพกให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป ตอนนี้ผู้ใช้ในไทยสามารถบันทึกและเข้าถึงบัตรสะสมแต้ม OneSiam ของสยามพิวรรธน์ และบัตรเข้าชมงานต่าง ๆ จากไทยทิคเก็ตเมเจอร์ได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้การตั้งค่า Gmail สามารถอนุญาตให้ใช้งานบริการนี้ได้ Google Wallet จะแสดงบัตรสมาชิกและบัตรสะสมคะแนนของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มบัตรด้วยตัวเองโดยกดปุ่มเดียวกับตอนที่เพิ่มบัตรชำระเงิน
ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของ Google Wallet โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยของโทรศัพท์ Android ครบทุกฟีเจอร์ รวมถึงการแปลงโทเค็นตามมาตรฐานอุตสาหกรรม Google Wallet จะใช้ระบบการทำธุรกรรมที่สมมติหมายเลขบัตรขึ้นมา (โทเค็น) ซึ่งเป็นหมายเลขเฉพาะของอุปกรณ์นั้น ๆ และเชื่อมโยงกับรหัสความปลอดภัยแบบไดนามิกที่จะไม่ซ้ำกันในแต่ละธุรกรรม
ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องได้รับการยืนยันจากธนาคารก่อนว่าคุณเป็นผู้ถือบัตรตัวจริงถึงจะสามารถเพิ่มบัตรลงในโทรศัพท์ได้ และสามารถตั้งค่าการล็อกหน้าจอเพื่อไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าถึงข้อมูลในอุปกรณ์ของได้ หากโทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชัน “หาอุปกรณ์ของฉัน” (Find My Device)
เพื่อล็อกอุปกรณ์นั้นโดยทันทีได้จากทุกที่ ตั้งรหัสผ่านใหม่เพื่อความปลอดภัย หรือแม้แต่ลบข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรชำระเงินทั้งหมดที่อยู่ในอุปกรณ์นั้น
