วี-คูล ประเทศไทย เปิดตัวฟิล์ม “BLACK xEV” สีดำสนิท

Spread the love

 

วี-คูล ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จครบรอบ 30 ปี ในคอนเซ็ปออลนิว วี-คูล พร้อมเปิดตัวฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุด วี-คูลแบล็ค เอ็กซ์อีวี (BLACK xEV) ที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก

 

น.ส.พิมพา ชลาลัย ประธานบริหาร บริษัท วี เค เอส กรุ๊ป (เอเซีย) จำกัด หรือ V-KOOL Group Thailand ผู้นำเข้า และจำหน่ายฟิล์มกันร้อน วี-คูลอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทแม่ได้เล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญ และเป็นโอกาสดีที่จะได้แนะนำฟิล์มกรองแสงรุ่นใหม่ล่าสุด ของวี-คูล

 

โดยเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ภายใต้ แพ็คเก็จ วี-คูล แบล็ค เอ็กซ์อีวี (BLACK xEV) ผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นแอดวานซ์ นาโน Advance Nano Technology ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ให้ประสิทธิภาพการป้องความร้อนสูงด้วยเทคโนโลยีการกระจายความร้อน(Heat Dissipation) เมื่อติดตั้งกับกระจกรถยนต์

 

พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการป้องกันรอยขีดข่วนบนฟิล์มช่วยปกป้องชั้นฟิล์มให้มีความคงทนสูง ติดตั้งได้ง่ายขึ้น

 

สำหรับจุดเด่นฟิล์มแพ็คเก็จนี้ คือ สีดีฟ แบล็ค (Deep Black) สีดำสนิท แต่เนื้อฟิล์มเคลียร์ชัดให้ทัศนวิสัยการขับขี่ชัดเจน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงซึ่งสามารถมองจากด้านในรถไปด้านนอกได้ชัดเจนและที่สำคัญ คือ ฟิล์มวี-คูล แบล็ค เอ็กซ์อีวี ไร้อุปสรรคผ่านได้ทุกคลื่นสัญญาณ (Signal Friendly) ทั้งสัญญาณ Easy Pass, M-Pass, GPS, และสัญญานมือถือ

 

การออกแบบฟิล์มรุ่น แบล็ค เอ็กซ์อีวี (BLACK xEV) ออกแบบมาเพื่อรองรับใช้สัญญาณสื่อสารรูปแบบต่างๆที่มีอยู่ในยานยนต์ยุคปัจจุบันรวมถึงการออกแบบให้เหมาะกับยานยนต์ยุคใหม่ทั้ง HEV, PHEV, และ BEV ที่มีการออกแบบที่ทันสมัยด้วย เชื่อว่าฟิล์มรุ่นใหม่นี้จะขยายฐานเพิ่มลูกค้าเพิ่ม อีกทั้งยังตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับฟิล์ม รุ่น แบล็ค เอ็กซ์อีวี (BLACK xEV) มีมาให้เลือกถึง 3 รุ่น ดังนี้ รุ่น V30 xEV แสงส่องผ่านได้ (VLT) 33% การป้องกันรังสีอินฟาเรด(IRR)94% การสะท้อนแสง(VLR) 6% การป้องกันยูวี(UV) 99% การป้องกันความร้อนรวม (TSER) 54%

 

รุ่น V15 xEV แสงส่องผ่าน (VLT)15% การป้องกันรังสีอินฟาเรด (IRR) 93.30% การสะท้อนแสง (VLR)5% การป้องกันยูวี(UV)99% การป้องกันความร้อนรวม(TSER)60%

 

และรุ่น V05 xEV แสงส่องผ่าน(VLT)5% การป้องกันรังสีอินฟาเรด(IRR)93.40% การสะท้อนแสง (VLR) 5% การป้องกันยูวี(UV)99% การป้องกันความร้อนรวม (TSER) 62% ซึ่งราคาของฟิล์มราคาเริ่มต้นที่ 21,000 – 34,500 บาท ลูกค้าสามารถเลือกสรรฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุดนี้เพื่อรถคันโปรดได้ที่ศูนย์วี-คูล และในบูธงานมอเตอร์โชว์ ปลายเดือนมีนาคมนี้

 

น.ส.พิมพา กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาเสริมตลาดรถยนต์ในบ้านเรา ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี โดยภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้จะมียอดขายที่ประมาณ 900,000 คันและในส่วนของตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 2% มีมูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาทปีนี้คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ จากช่วงสถานการณ์โควิดระบาดส่งผลให้ตลาดหดตัวลงไปมากถึง 16%

 

เนื่องจากในปีนี้มีความพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ 30 ปี ของ ฟิล์มวี-คูล ในประเทศไทย บริษัทมุ่งมั่น และพร้อมที่จะเดินหน้า ก้าวไปสู่อนาคต ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะนำเข้ามาเสริมทัพอีกหลากหลายรุ่นซึ่งโรงงานผู้ผลิต และ V-KOOL International ยังคงให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันความร้อนสูง

 

เนื่องจากสภาพอากาศในปัจจุบันอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี รวมถึงให้ความสำคัญของคงทนของฟิล์ม และการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ฟิล์มในปัจจุบัน

 

สำหรับ V-KOOL Group Thailand ยังคงให้ความสำคัญศูนย์บริการติดตั้งฟิล์ม ที่ทันสมัย สวยงามสะดวกสบาย สะอาด รวมถึงให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาฝีมือการติดตั้งฟิล์มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งแกร่งของเรา และในปี2566 เรามีแผนขยายผู้แทนจำหน่ายวี-คูล ให้ครอบคลุมตลาดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากขึ้น

 

ปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์โดยเป็นศูนย์ วี-คูล ในรูปแบบ วี-คูล ฟูลเฟล็ตทั้งหมด 12 สาขา อยู่ในเขตกรุงเทพ 6 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา จังหวัดสงขลา 1 สาขา ศูนย์วี-คูล ฟูลเฟล็ต ที่บริหารโดยสำนักงานใหญ่ 4 สาขา นอกจากนี้ยังมีดีลเลอร์ที่เป็นร้านประดับยนต์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศอีก 34 สาขา

 

อยู่ในกรุงเทพมหานคร 1 ราย ภาคอีสาน 11 ราย ภาคเหนือ 4 ราย ภาคกลาง 4 ราย ภาคใต้ 9 ราย และภาคตะวันออก 5 ราย มีความพร้อมในการให้บริการอย่างเต็มที่ พร้อมสามารถตรวจสอบแคมเปญพิเศษและศูนย์บริการทั่วประเทศได้ที่ www.v-koolthailand.com หรือFB:v-koolgroupthailand,Line:@v-koolthailand

 

วี-คูลได้ถือช่วงที่ภาคธุรกิจต่างๆ ในไทยเงียบเหงาในช่วงโควิดทำการเดินสายฝึกอบรมการติดตั้งฟิล์มทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด และยังใช้โอกาสนี้พูดคุยกับบริษัทแม่ในต่างประเทศและโรงงานผู้ผลิต เพื่อพัฒนาและผลิตฟิล์มรุ่นใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของตลาดในประเทศไทย และได้ทำการทดสอบคุณภาพสินค้า ทดลองติดตั้ง

 

เพื่อรอเวลาเมื่อสถานการณ์โควิดและภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาของฟิล์มรุ่น แบล็ค เอ็กซ์อีวี (BLACK xEV)

Scroll to Top