ZTE ชี้เทคโนโลยี 5G-A นำโลกเข้าสู่ Intelligent century

Spread the love

 

ZTE จัดงาน 5G Summit & User Congress 2023 สะท้อนแนวคิด “Embrace the Digital Nexus” เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้เทรนด์ 5G ในอนาคต โดย Tech company เข้าร่วมกว่า 110 ราย

 

เสี่ยว หมิง ประธานฝ่ายต่างประเทศของ ZTE กล่าวว่า การประชุม ZTE 5G Summit & User Congress 2023 ต้องการนำเสนอมุมมองของโลกที่เชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยี 5G-A ระหว่างอวกาศและโลก ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เช่น XR และ Metaverse เป็นต้น

 

รวมถึงช่วยยกระดับให้กับทุกอุตสาหกรรม โดยขับเคลื่อนวิถีชีวิตของมนุษย์ให้ก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ศตวรรษแห่งความรุ่งเรือง หรือ Intelligent century

 

ทั้งนี้ ZTE ได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการ 5G จำนวนกว่า 110 ราย ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เกิดการส่งเสริมกับอุตสาหกรรมดิจิทัลมากกว่า 1,000 แห่ง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงกันซึ่งประกอบไปด้วยฟังก์ชันต่างๆ ในแบบ Modular ที่สามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่าย เน้นเพิ่มปริมาณความจุ, ประสิทธิภาพ, ฟิวชั่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

สำหรับ The ZTE 5G Summit & User Congress 2023 มีแนวคิดหลักคือ “Embrace the Digital Nexus” ซึ่งมีหน่วยงานกำกับดูแลด้านโทรคมนาคม พันธมิตรธุรกิจ ผู้ให้บริการ และนักวิเคราะห์จาก GSMA, IMT-2020(5G) PG, IMT-2030(6G) ) PG, CCSA, TMF, ABI, CCS Insight จากทั่วโลก ร่วมบอกเล่าข้อมูลเชิงลึก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยนำกรณีศึกษาในเชิงปฏิบัติ รวมถึงผลสำรวจภาพรวมและทิศทางการเติบโตของเทคโนโลยี 5G ในอนาคต

 

จอห์น ฮอฟฟ์แมน ประธานกรรมการบริหารของ GSMA (Global System for Mobile Communications) กล่าวว่า เครือข่าย 5G ในระดับสูง และเทคโนโลยีต่าง ๆ จะช่วยปฏิวัติโลก โดยผ่านความร่วมมือในการทำงานของทุกๆ องค์กร เพื่อสร้างความยั่งยืน สำหรับการประชุมสุดยอด ZTE 5G Summit & User Congress 2023 ครั้งนี้นับว่า เปิดโอกาสที่ดี ในการแบ่งปันความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต 

 

รูดอล์ฟ ชเรฟล์ ประธานกรรมการบริหารของ Hutchison Drei Austria กล่าวว่า การที่เปิดรับเทคโนโลยี 5G นับเป็นการปฏิวัติและส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า ด้วยการเชื่อมโยงผู้คนและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ผ่านความเร็วและความน่าเชื่อถืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับเปลี่ยนทุกการเชื่อมต่อที่เกี่ยวข้องได้อย่างราบรื่น อีกทั้ง อำนวยความสะดวกให้การทำงานได้เป็นอย่างดี

 

ZTE พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานภาครัฐ และลูกค้าเครือข่ายองค์กร ที่เป็นผู้ให้บริการทั่วโลก ซึ่งมีความต้องการใช้นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความรวดเร็ว ทั้งนี้เทคโนโลยีดิจิทัลคือพลังหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระดับโลก

 

ZTE จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้มีบทบาทในขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ICT ที่เป็นนวัตกรรมทั่วโลก ด้วยผลงานที่ครอบคลุมการทำงานด้าน wireless & wireline solutions และการบริการอุปกรณ์ โทรคมนาคมในระดับมืออาชีพอย่างครบวงจร 

 

อีกทั้งในงานประชุมครั้งนี้  ZTE ได้จัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นโซลูชัน และการใช้งาน ในพื้นที่ Thailand’s innovation center โดยนำเสนอให้เห็นถึงธรรมชาติของทุกสิ่งที่เชื่อมโยงกัน สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์ดิจิทัลอย่างชัดเจน

 

ส่วนพื้นที่ “Wireless Everything” นั้น ZTE ได้สาธิตการใช้งานในการปรับปรุงเครือข่าย 4G ที่มีอยู่ให้ทันสมัย เพื่อความสำเร็จของ 5G ในอนาคต โดยในงานแสดงสินค้า ยังได้เพิ่มประสบการณ์ 5G และการให้บริการอย่างครอบคลุมทุกด้าน ที่สำคัญคือ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย ด้วยเครื่องมือพื้นฐานและโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน่สีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ ZTE ในฐานะผู้นำด้าน optical network ได้เปิดการใช้งานเครือข่ายทั้งหมดผ่านชุดผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร ในการให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ และโซลูชันโดยเหมาะต่อความต้องการที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ZTE Mobile Devices ภายใต้วิสัยทัศน์ “Better for All” ได้นำอุปกรณ์นวัตกรรมอัจฉริยะจำนวนมากมาร่วมงาน

 

เช่น nubia Pad 3D ซึ่งเป็นแท็บเล็ต 3D ขับเคลื่อนด้วย AI และไม่ต้องใช้แว่นตาเครื่องแรกของโลก nubia Neo 5G สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเกมส์ 5G เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งานทั่วโลก และ Blade V50 Design ดีไซน์เรียบหรู สำหรับผลิตภัณฑ์ ZTE FWA & MBB ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีการนำเสนอ MC888 และผลิตภัณฑ์ 5G FWA & MBB อื่นๆ ในงานอีกด้วย

Scroll to Top