BMW ประเทศไทยรุกปี 2567 ด้วยการเปิดตัวรถใหม่ 10 รุ่นจากสามแบรนด์

Spread the love

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยความสำเร็จ 4 ปีซ้อน ครองอันดับหนึ่งในตลาดกลุ่มรถยนต์พรีเมียมในไทย จากยอดจดทะเบียนบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ รวม 15,477 คัน ในปี พ.ศ. 2566 เติบโตขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า

 

กลุ่มยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ของบีเอ็มดับเบิลยูที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่า 348% จากยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 1,399 คัน ขณะที่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม Luxury Class ของบีเอ็มดับเบิลยูเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 46% จากปี พ.ศ. 2565 ด้วยยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 668 คัน

 

ด้านบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย โชว์ผลงานแข็งแกร่งแม้เผชิญความท้าทาย ด้วยยอดสินเชื่อรวมที่โตขึ้น 2% และการปฏิวัติระบบดิจิทัลเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

 

โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวทัพยนตรกรรมใหม่ถึง 10 รุ่น นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู iX2 xDrive30 M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 520d M Sport Pro, บีเอ็มดับเบิลยู 530e M Sport Pro, มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู Classic Edition, มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน รุ่น Multitone, มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน Highlands Edition

 

รวมถึงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS, บีเอ็มดับเบิลยู CE 02 บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และบีเอ็มดับเบิลยู K 1600 B ตามเป้าหมายในการส่งมอบตัวเลือกที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า

 

นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเช่นเดิม โดยได้นำยนตรกรรมใหม่มาเปิดตัวถึง 10 รุ่น จากทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

 

ไปจนถึงบริการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงมุ่งสู่ความเป็นเลิศไปพร้อม ๆ กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและพาร์ทเนอร์ของเราทุกคน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยของเรา

 

ในระดับโลก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน โดยใน ปี พ.ศ. 2566 สามารถทำยอดขายบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นยอดส่งมอบรวม 2,555,341 คันทั่วโลก เติบโตขึ้น 6.5% โดยรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 74.4% จากปี 2565 คิดเป็นยอดส่งมอบทั่วโลกรวม 376,183 คัน

 

ผลของความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งตอบรับกับเทรนด์พลังงานสะอาดที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ทั้งนี้ ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มองว่าเทรนด์ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป และคาดการณ์ว่าจะทำยอดขายได้กว่า 500,000 คัน ในปี พ.ศ. 2567 นี้

 

นอกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้รับการประเมินคะแนนความพึงพอใจของผู้บริโภค (Net Promoter Score – NPS) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในด้านยอดขายและการให้บริการหลังการขายในปี พ.ศ. 2566 ด้วยคะแนนจากผลการประเมินที่ 94 คะแนน และ 90 คะแนนตามลำดับ ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา

 

แสดงให้เห็นว่าบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เน้นลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง พร้อมร่วมมือกับเครือข่ายของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศ เพื่อพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงที่สุด

 

ทั้งนี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2565-2566 บีเอ็มดับเบิลยู ได้จับมือกับผู้จำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการหลายราย เพื่อเปิดตัวโชว์รูมโฉมใหม่ในประเทศไทยกว่า 9 แห่ง ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการแบบใหม่ล่าสุด หรือ Retail Next ที่รังสรรค์บรรยากาศในการสัมผัสแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูที่ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นตั้งแต่ก้าวแรก

 

โดยบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับเพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส เปิดตัวโชว์รูม เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์ ที่มาพร้อมโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู M ซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากบีเอ็มดับเบิลยูเป็นแห่งแรกในย่านราชพฤกษ์และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมด้วยศูนย์ BMW Premium Selection รถยนต์มือสองที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากบีเอ็มดับเบิลยู

 

นอกจากนี้ ยังได้จับมือกับบริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด เดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ขยายระบบนิเวศทางธุรกิจในพื้นที่ภาคใต้ โดยปักหมุดยุทธศาสตร์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยการเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรอย่างเป็นทางการ ‘บีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ มิลเลนเนียม ออโต้’ สาขาสุราษฎร์ธานี ขยายเครือข่ายครอบคลุมภาคใต้ อาทิ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, พังงา และอื่น ๆ

 

รวมถึงการร่วมมือกับเนลสัน ออโต้เฮ้าส์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู ขยายพื้นที่ให้บริการลูกค้าในภูมิภาคตะวันออก ด้วยการเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง พร้อมงบประมาณการลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วยโชว์รูมรถยนต์และพื้นที่จัดจำหน่ายสุดโอ่อ่ากว้างขวาง รวมถึงศูนย์บริการด้านการซ่อม พร้อมด้วยศูนย์บริการด้านตัวถังและสีที่ได้รับการรับรองจากบีเอ็มดับเบิลยู เพื่อการบริการลูกค้าอย่างครบครัน

 

และยังได้ร่วมลงทุนในการปรับโฉมโชว์รูมใหม่และขยายพื้นที่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อมร รังสิต, มิลเลนเนียม ออโต้ พระรามสี่, มิลเลนเนียม ออโต้ สยามพารากอน, และมิลเลนเนียม ออโต้ อุบลราชธานี และจะยังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยคอนเซ็ปต์ Retail Next ในอีกหลายแห่งทั่วประเทศ ตลอดปี พ.ศ. 2567 นี้

 

ปี พ.ศ. 2566 บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย สามารถสร้างการเติบโตให้กับยอดสินเชื่อรวมได้อย่างแข็งแกร่งที่ 2% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 โดยลูกค้าเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ หรือมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จำนวนประมาณ 50% ยังคงให้ความไว้วางใจและเลือกรับบริการทางการเงินจากบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย

 

ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังสร้างผลงานที่เข้มแข็งในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อรถยนต์มือสองซึ่งเติบโตกว่า 25% ปีต่อปี มีอัตราการเข้าถึงตลาดลูกค้าองค์กรกว่า 62% สะท้อนถึงความไว้วางใจและความสำเร็จจากการมุ่งมั่นในกลยุทธ์ที่คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้จากการลงทุนเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2566 เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ลูกค้าหลากหลายรูปแบบ

 

โดยในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ได้เปิดตัว BMW Thailand Web Online Shop ซึ่งช่วยให้ลูกค้ายืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (National Digital ID – NDID) รวมทั้งการรองรับลายเซ็นดิจิทัลในการให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสมัครบริการทางการเงินได้อย่างสะดวกสบาย ลดกระบวนการสแกนหรืออัพโหลดเอกสาร รวมถึงช่วยลดระยะเวลา การยืนยันรายละเอียดของสัญญาให้เหลือเพียงไม่กี่คลิก

 

โดยบริการด้านดิจิทัลเหล่านี้ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ช่วยให้กระบวนการประเมินเพื่ออนุมัติการปล่อยสินเชื่อเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที และยังทำให้กระบวนการดำเนินงานหลังบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวบริการ ‘MyBMW Finance’ และ ‘MyMINI Finance’ ให้ลูกค้าเข้าถึงสัญญาทางการเงินและบริการอื่น ๆ ได้ตลอดเวลา

Scroll to Top