“Haier Smarthome” ผลประกอบการ 6.35 แสนล้านบาท

Spread the love

 

ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม เผยผลประกอบการครึ่งแรกปี 67 กวาดรายได้รวมกว่า 6.35 แสนล้านบาท กำไรสุทธิโตเพิ่ม 16.3% พร้อมเดินเครื่องรุกขยายตลาดต่างประเทศในอนาคต

 

บริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จำกัด ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 135,620 ล้านหยวน คิดเป็นอัตราการเติบโตปีต่อปีที่ 3.03% กำไรสุทธิที่เป็นของบริษัทแม่อยู่ที่ 10,420 ล้านหยวน (48,848 ล้านบาท) เติบโต 16.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิทะลุ 1 หมื่นล้านหยวน โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.68% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน คิดเป็น 0.87%

 

การเติบโตในตลาดจีนจากการผสานหลายแบรนด์เพื่อผู้บริโภค

 

แม้ว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่จะมีแนวโน้มลดลง แต่ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม สามารถเพิ่มรายได้ภายในประเทศจีนและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ โดยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างแบรนด์ ไฮเออร์ (Haier), คาซาร์เต้ (Casarte) และ ลีดเดอร์ (Leader) พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการเฉพาะบุคคลและเสริมสร้างศักยภาพของแบรนด์ SAN YI NIAO ด้วยผลิตภัณฑ์ซีรีส์ Nebula ซีรีส์ Tranquility และผลิตภัณฑ์อื่นๆ

 

โดยแบรนด์พรีเมียมอย่าง Casarte ได้นำทางในการผสานผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมเข้ากับสไตล์การใช้ชีวิตภายในบ้าน และมีส่วนแบ่งตลาดของ Casarte ในตลาดพรีเมียมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรกของปี 2567 ในประเทศจีน โดยแบรนด์ Casarte มีส่วนแบ่งการตลาดดังนี้

 

· หมวดตู้เย็นจากยอดขายปลีกของผลิตภัณฑ์ที่มีราคามากกว่า 10,000 หยวน อยู่ที่ 39.5%

 

· หมวดเครื่องซักผ้าฝาหน้าจากยอดขายปลีกของผลิตภัณฑ์ที่มีราคามากกว่า 10,000 หยวน อยู่ที่ 82.3%

 

· หมวดเครื่องปรับอากาศที่มีราคามากกว่า 15,000 หยวน อยู่ที่ 32%

 

นวัตกรรมของไฮเออร์นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

 

แบรนด์ไฮเออร์นำเสนอโซลูชันให้กับผู้ใช้งานด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิ ชุดเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในซีรีส์ Yunxi ที่ลดเสียงรบกวนได้ ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องซักผ้าไฮเออร์ที่มีราคา 4,000 – 8,000 หยวน เพิ่มขึ้น 2.6% ในขณะที่เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพและมีความทันสมัย มีส่วนแบ่งทางการตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น 0.8%

 

 

นอกจากนี้ Leader แบรนด์ในเครือของไฮเออร์ ยังเข้าถึงความต้องการของผู้ใช้งานสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางการตลาด โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยอดนิยม เช่น เครื่องปรับอากาศซีรีส์ Vitality และเครื่องซักผ้าซีรีส์ Cloud ในครึ่งปีแรกของปี 2567 ส่งผลให้ยอดขายปลีกของไฮเออร์ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นถึง 31%

 

ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ยังคงเดินหน้าพัฒนาด้าน ESG อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีแรกของปี 2567 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 และได้รับการจัดอันดับ ESG สูงสุดจาก MSCI ในอุตสาหกรรมภายในประเทศ (ESG Rating ระดับ A) สอดคล้องกับค่านิยมด้านความยั่งยืนของบริษัท ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้ดำเนินการตามโครงการ “แลกเปลี่ยนของเก่าเป็นของใหม่” โดยมีความมุ่งมั่นในการกระจายไปยังทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ครอบครัวต่างๆ สามารถเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง และส่งเสริมการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสม

 

การขยายธุรกิจในต่างประเทศในปัจจุบันและอนาคต

 

ในครึ่งแรกของปี 2567 สภาพตลาดในต่างประเทศมีความแตกต่างกันออกไป แบ่งเป็นด้านความต้องการในตลาดที่พัฒนาแล้ว อาทิ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ที่ได้รับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่ตลาดเกิดใหม่อย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ รวมถึงการปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

 

ทั้งนี้ ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม สามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่สูงขึ้นในประเทศพัฒนาแล้ว และเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเกิดใหม่ โดยมีบันทึกรายรับรวมในต่างประเทศอยู่ที่ 70,820 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดของไฮเออร์ สมาร์ท โฮม ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 0.7% ยุโรป เพิ่มขึ้น 0.1% และภูมิภาคโอเชียเนีย เพิ่มขึ้น 2.9 % ในขณะที่สัดส่วนรายได้ของเอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 9.9% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้น 12.4% และตะวันออกกลางและแอฟริกาเพิ่มขึ้น 26.8%

 

 

ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ไฮเออร์ ได้เปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมไฮเออร์ในอียิปต์อย่างเป็นทางการ โดยมีความสามารถในการผลิตสินค้าในเครือไฮเออร์มากกว่า 1.5 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตและความเป็นผู้นำด้านแบรนด์ของไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ในตลาดอียิปต์ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะเข้าซื้อกิจการเครื่องทำน้ำอุ่นของอีเลคโทรลักซ์ในแอฟริกาใต้ ซึ่งจะช่วยให้ ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ขยายเข้าสู่ตลาดแอฟริกาใต้สำหรับสินค้าประเภทตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

 

และในเดือนสิงหาคม ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ นิคมอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศชลบุรี ประเทศไทย โดยมีแผนกำลังการผลิตทั้งหมดต่อปี 6 ล้านชิ้น ซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์จีนในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการก่อสร้างโรงงานเหล่านี้ ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จะขยายศักยภาพสู่ตลาดต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้นต่อไป

 

อัตราค่าใช้จ่ายได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 0.8%

 

อัตรากำไรสุทธิของ ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม จาก 6.54% ในครึ่งปีแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 6.81% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และเพิ่มขึ้นเป็น 7.68% ณ ช่วงเวลาที่รายงาน

 

อัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของ ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ในการทำให้ห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดของบริษัทเข้าสู่ระบบดิจิทัล ผ่านการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านต่าง ๆ เช่น ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน การวิจัยและพัฒนา ต้นทุน และค่าใช้จ่าย ยกตัวอย่างเช่น ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ได้ปรับปรุงการดำเนินงานด้านการขายแบบดิจิทัลโดยการผสมผสานการใช้งาน TikTok ให้เข้ากับแพลตฟอร์มทรัพยากรสำหรับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของบริษัท

 

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของความต้องการในอุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยอาศัยความได้เปรียบด้านเทคโนโลยี ขนาด และบริการ เพื่อตอบสนองต่อความ ท้าทายต่าง ๆ ของตลาด รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ และเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคง

 

รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 สามารถเข้าชมได้ทางเว็บไซต์ https://smart-home.haier.com/en/

Scroll to Top