“GoPro” เปิดตัว HERO13 Black และ HERO

Spread the love

 

GoPro ประกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ 2 รุ่นใหม่ HERO13 Black ในราคา 15,900 บาท และ HERO ในราคา 7,900 บาท

 

นิโคลัส วูดแมน ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง GoPro เปิดเผยว่า กล้อง GoPro ใหม่ทั้งสองรุ่นในปีนี้ได้รับแรงบันดาลใจและสร้างขึ้นเพื่อ GoPro คอมมูนิตีโดยเฉพาะ HERO13 Black มาพร้อม Lens Mod แบบถอดเปลี่ยนได้ใหม่ 4 แบบ ซึ่ง HERO13 จะตรวจจับและปรับการตั้งค่าโดยอัตโนมัติ

 

การติดตั้งด้วยสลักแม่เหล็ก ฟีเจอร์ GPS และแบตเตอรี่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เพิ่มระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานขึ้นและสามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น และยังมี HERO กล้อง 4K ที่เล็กที่สุดและเบาที่สุดที่เคยมีมา พร้อมหน้าจอที่จะถูกใจทั้งผู้ใช้ใหม่และผู้ที่ชื่นชอบ โกโปรอยู่แล้ว ด้วยดีไซน์ที่ทนทานและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ และด้วยคุณภาพของภาพ 4K ที่น่าประทับใจ

 

HERO13 Black สมรรถนะระดับเรือธงที่ยอดเยี่ยม

 

HERO13 Black เป็นการผสมผสานอันทรงพลังระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและความเป็นไปได้ในการสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด นอกเหนือจากวิดีโอ 5.3K 60 เฟรมต่อวินาทีอันยอดเยี่ยมที่สุดในระดับเดียวกัน ระบบลดการสั่นไหว HyperSmooth ที่คว้ารางวัลจาก Emmy® และคุณสมบัติหลักของ GoPro แล้ว HERO13 Black ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้แก่ Slo-Mo แบบรัว 13 เท่าอันน่าทึ่ง – บันทึกวิดีโอคุณภาพระดับ HD 720p ได้สูงสุด 400 เฟรมต่อวินาที รวมถึงวิดีโอ 5.3K ที่ 120 เฟรมต่อวินาทีและ 900p ที่ 360 เฟรมต่อวินาที

แบตเตอรี่ออกแบบใหม่มีความจุมากขึ้นถึง 10% แบตเตอรี่ Enduro ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น – ช่วยเพิ่มเวลาการใช้งานในทุกสภาพอากาศ ขายึดสลักแม่เหล็กแบบ Snap and Go – เพิ่มเติมจากขายึดในตัวและเกลียวยึด 1/4-20 เพื่อให้ได้ 3 วิธีในการยึด HERO13 Black เทคโนโลยี Wi-Fi 6 ที่เร็วขึ้น – ความเร็วในการถ่ายโอนคอนเทนต์ที่สูงขึ้นถึง 40%

 

วิดีโอ Hybrid Log Gamma (HLG) HDR ระดับมืออาชีพ – เผยแพร่ภาพมาตรฐาน 10 บิตและช่วงสี Rec. 2100 และช่วงสีที่กว้างกว่า HDR เพียงอย่างเดียว การปรับแต่งเสียงที่ปรับแต่งได้มากขึ้น – เลือกเสียงสมจริงที่สมดุลหรือการตั้งค่าเสียงที่เพิ่มความคมชัดให้กับเสียงพูด ขณะเดียวกันก็รักษาเสียงรอบข้างเอาไว้

 

GPS + Performance Stickers – ติดตามความเร็ว เส้นทาง ภูมิประเทศ ระดับความสูง และ G-Force และช่วยเหลือในการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในแอปการจัดการสื่อภายนอกอื่น นอกจากนี้ยังมาพร้อมตัวเลือกการตั้งค่าสำเร็จรูปแบบกำหนดเองเพิ่มเติม QuikCapture ที่ได้รับการปรับปรุง และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ลูกค้าที่สนใจ HERO13 Black (15,900 บาท) สามารถเลือกระหว่างกล้องแบบอย่างเดียว HERO13 Black Creator Edition (23,900 บาท) ที่มาพร้อมขาตั้ง Volta พร้อมแบตเตอรี่ในตัว, Media Mod และ Light Mod หรือ HERO13 Black และชุดอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับกิจกรรม มีจำหน่ายที่ GoPro.com เท่านั้น สินค้าทั้งหมดพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ การจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าและการจำหน่ายในร้านค้าปลีกทั่วโลกจะเริ่มในวันที่ 10 กันยายน

 

เลนส์ HB-Series: ซีรี่ส์เลนส์อัจฉริยะ

 

ลูกค้า HERO13 Black สามารถยกระดับความคิดสร้างสรรค์ได้โดยการเพิ่มเลนส์ HERO Black (HB)-Series ใหม่ล่าสุดลงในตะกร้า HERO13 Black จะตรวจจับเลนส์แต่ละอันโดยอัตโนมัติเพื่อปรับตัวเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดตามประเภทของเลนส์และสภาพแวดล้อม เลนส์ HB-Series ทั้ง 4 แบบเป็นเลนส์เพียงชุดเดียวที่รองรับระบบกันสั่น HyperSmooth ที่เป็นสิทธิบัตรของ GoPro และยังกันน้ำและกันรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบสารกันน้ำเกาะ

 

Ultra Wide Lens Mod (3,900 บาท)  เปลี่ยน HERO13 Black ให้เป็นกล้อง POV ที่ดีที่สุดด้วยการจับภาพได้มากขึ้นในทุกช็อตด้วยมุมมองภาพ 177° และอัตราส่วนภาพใหม่ 1:1 ช่วยให้คุณมีมุมมองภาพมากขึ้นและมีความอิสระในการครอบตัดฟุตเทจของคุณเป็นภาพแบบจอกว้าง 16:9 หรือแนวตั้ง 9:16 ไม่ว่าจะติดตั้งกล้องอย่างไรก็ตาม และเลนส์นี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพ HyperSmooth สูงสุดสำหรับการกันสั่นวิดีโอด้วยการล็อกแนวเส้นขอบฟ้า 360° ในตัวกล้อง ที่ความละเอียดสูงสุด 4K60

 

A black camera with a screen

 

Macro Lens Mod (5,000 บาท) ขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ด้วยการปรับโฟกัสของวัตถุที่อยู่ไกลและวัตถุที่อยู่ใกล้กว่าเลนส์ GoPro มาตรฐานถึง 4 เท่า วงแหวนโฟกัสแบบปรับได้ช่วยให้คุณสามารถปรับระยะโฟกัสได้ด้วยตนเองจากระยะใกล้สุดถึง 11 ซม.

 

 

Anamorphic Lens Mod (ราคาไม่ยังระบุ) บันทึกภาพวิดีโอมุมกว้างพิเศษสุดอาร์ตโดยมีความผิดเพี้ยนน้อยกว่ามุมมองภาพมุมกว้างแบบดั้งเดิมในอัตราส่วน 21:9 อันน่าทึ่ง เหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร์ต่าง ๆ เลนส์แฟลร์ระดับภาพยนตร์เพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพวิดีโอของคุณ ส่วนคุณสมบัติ “บีบภาพ” ในกล้องช่วยให้คุณบันทึก รีวิว และตัดต่อคอนเทนต์แบบ Anamorphic ได้โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการโพสต์โปรดักชันที่ยุ่งยาก

 

ฟิลเตอร์ ND ชุด 4 ชิ้น (2,700 บาท): สร้างโมชั่นเบลอระดับภาพยนตร์ให้กับช็อตอย่างง่ายดายด้วยฟิลเตอร์ตัดแสง (ND) จาก HB-Series ได้แก่ ND4 / ND8 / ND16 / ND32 เพียงติดตั้งฟิลเตอร์แล้ว HERO13 Black จะตรวจจับฟิลเตอร์นั้น สลับเป็นโหมดวิดีโอ Auto Cinematic และปรับไปใช้การตั้งค่าที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ

 

Ultra Wide Lens Mod, Macro Lens Mod และฟิลเตอร์ ND ชุด 4 ชิ้นจำหน่ายแยกจาก HERO13 Black และสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วที่ GoPro.com การจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าและการจำหน่ายในร้านค้าปลีกทั่วโลกจะเริ่มในวันที่ 10 กันยายน Anamorphic Lens Mod จะวางจำหน่ายในปี 2025

 

 

บันทึกภาพได้นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่รุ่นใหม่

 

แบตเตอรี่ Enduro 1900mAh ที่มีความจุมากขึ้น 10% ผสานกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ได้รับการปรับปรุงและช่องใส่แบตเตอรี่ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นในทุกสภาวะ HERO13 Black บันทึกต่อเนื่องได้นานถึง 1.5 ชั่วโมงในความละเอียดสูงสุด 4K30 และการตั้งค่า 5.3K30 รวมถึงบันทึกต่อเนื่องได้นานกว่า 2.5 ชั่วโมงในคุณภาพระดับ HD 1080p30

 

ยกระดับพลังงานในทุกสภาพอากาศด้วยการเพิ่ม ชุดอุปกรณ์ฝาแม่เหล็กและสายไฟ Contacto (3,100 บาท) อุปกรณ์เสริมเพิ่มพลังงานนี้สามารถยึดด้วยแม่เหล็กเข้ากับฝาด้านข้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ HERO13 Black ได้ ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และยังทนทานต่อสภาพอากาศ

 

ยึดกล้องแบบใหม่แบบสับ

 

สลักแม่เหล็กรุ่นใหม่ (950 บาท) และขายึดกล้องข้อต่อกลม (1,500 บาท) จะให้วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการสลับ HERO13 Black ไปยังอุปกรณ์ยึดต่างๆ อุปกรณ์เหล่านี้เข้ากันได้กับขายึดกล้อง GoPro ที่มีอยู่ทั้งหมด และใช้ระบบสลักคู่แบบถอดเร็วเพื่อยึดกล้องให้แน่นหนา เพียงใช้นิ้วกดเพื่อปลดล็อกและเปลี่ยนขายึด หรือจะกลับด้านกล้องแบบ 180° เพื่อเปลี่ยนมุมมองก็ได้

 

ลูกค้า HERO13 Black ยังสามารถยึดกล้องของตนโดยใช้ขายึดในตัวเพื่อความมั่นคงสูงสุด ตัวเลือกการยึดกล้องที่ใช้พื้นที่น้อย และเกลียวยึด 1/4-20 ที่ใช้ได้กับทั้งขาตั้งกล้องแบบสามขาและอุปกรณ์เสริมของกล้องระดับมืออาชีพมาตรฐาน

 

HERO จิ๋วแต่แจ๋วด้วยประสิทธิภาพ 4K

 

HERO คือกล้อง 4K ที่มาพร้อมหน้าจอที่เล็กที่สุด เบาที่สุด เรียบง่ายที่สุด และราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งโดดเด่นด้วย การออกแบบที่กะทัดรัดเป็นพิเศษ ด้วยน้ำหนักเพียง 86 กรัม: HERO มีปริมาตรน้อยกว่าถึง 35% และมวลน้อยลง 46% เมื่อเทียบกับ HERO13 Black ทนทานและกันน้ำได้ถึง 5 เมตร: กันน้ำได้อย่างสมบูรณ์และสร้างขึ้นด้วยความทนทานระดับตำนานของ GoPro กล้อง HERO นี้จึงพร้อมที่จะบันทึกทุกความสนุก ไม่ว่าจะฝ่าโคลน หิมะ หรือแหล่งน้ำ หรือเพียงแค่สำรวจเมืองใหม่ๆ

หน้าจอสัมผัสและการควบคุมด้วยปุ่มเดียวที่ใช้งานง่าย: ใช้หน้าจอ LCD ของ HERO เพื่อจัดเฟรมภาพถ่ายของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ และเพียงแค่ปัดนิ้วหรือกดปุ่มโหมดเพื่อสลับโหมด เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้กดปุ่มชัตเตอร์เพื่อเริ่มบันทึกภาพ คุณภาพของภาพอันน่าทึ่งและ Slo-Mo 2K: บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด Ultra HD 4K และ HD 1080p ภาพถ่าย 12MP หรือปรับให้ทุกอย่างช้าลงที่ 2.7K 60 เฟรมต่อวินาที คุณยังสามารถดึงเฟรม 8MP จากวิดีโอ 4K ของคุณได้โดยใช้แอป Quik

อัตราส่วน 16:9: วิดีโอแนวนอนที่ปรับให้เหมาะกับ YouTube ระบบลดการสั่นไหวของวิดีโอ HyperSmooth ด้วยแอป Quik: แอป GoPro Quik จะใช้ระบบลดการสั่นไหวของวิดีโอ HyperSmooth เพื่อปรับการสั่นไหวในภาพวิดีโอของคุณให้ไหลลื่นขึ้นโดยอัตโนมัติ แบตเตอรี่ Enduro ที่ใช้งานได้ยาวนาน: HERO สามารถบันทึกต่อเนื่องได้นานกว่า 60 นาทีที่การตั้งค่าวิดีโอสูงสุดด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว** สามารถสั่งซื้อ HERO (7,900 บาท) ล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ การจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าและการจำหน่ายในร้านค้าปลีกทั่วโลกจะเริ่มในวันที่ 22 กันยายน

 

แอป GoPro Quik

 

ทั้ง HERO13 Black และ HERO สามารถใช้งานร่วมกับแอป Quik เพื่อรับสิทธิประโยชน์ของสมาชิก GoPro ดังต่อไปนี้ ส่งวิดีโอไฮไลท์โดยอัตโนมัติไปยังมือถือของคุณ – เพียงแค่ชาร์จ GoPro ของคุณเมื่อเชื่อมกับ Wi-Fi ในบ้านของคุณ ในขณะที่ชาร์จ ภาพวิดีโอของคุณจะอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติและใช้ประกอบเป็นวิดีโอไฮไลท์ พร้อมด้วยเพลงและเอฟเฟ็กต์ที่ซิงค์เข้าจังหวะ วิดีโอไฮไลท์จะส่งไปยังมือถือของคุณโดยอัตโนมัติและพร้อมแชร์ทันที

 

ตัดต่อช็อตของคุณด้วยแอป Quik – ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ใช้งานได้ง่ายดายมากมายที่จะให้คุณตัดต่อภาพวิดีโอของคุณได้แบบมืออาชีพ คุณสามารถปรับแต่งวิดีโอไฮไลท์ที่แอปสร้างไว้ได้หรือสร้างวิดีโอใหม่ในแบบของคุณเองตั้งแต่ต้น คุณยังสามารถซูมเข้า ครอบตัด เพิ่มฟิลเตอร์ และซ้อนข้อมูล และอีกมากมายให้กับฟุตเทจของคุณได้

 

 

ถ่ายโอนได้อย่างง่ายดายและสำรองข้อมูลบนคลาวด์ได้ไม่จำกัด – สามารถถ่ายโอนภาพถ่ายและวิดีโอไปยังโทรศัพท์ของคุณผ่านแอป Quik ได้ง่าย ๆ ด้วยการอัปโหลดแบบไร้สาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บในระบบคลาวด์ไม่จำกัด พร้อมการอัปโหลดอัตโนมัติที่ไม่ยุ่งยาก เพียงชาร์จกล้องไว้เมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในบ้านของคุณ GoPro ก็จะจัดการทุกอย่างให้เอง

Scroll to Top