ZEEKR เปิดตัว ZEEKR X พรีเมียมคอมแพคเอสยูวีเริ่ม 1.19 ล้านบาท

Spread the love

 

แนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ของไทยในระยะต่อไปจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดย ttb analytics ประเมินยอดขายรถยนต์อีวี ในปี 2567 จะอยู่ที่ 103,182 คัน หรือขยายตัว 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์อีวีเพิ่มสูงขึ้นเป็น 13.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 9.8%

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างของรถอีวีระดับพรีเมียม-ลักชูรี ที่ยังไม่มีแบรนด์ใดทำตลาด บริษัท ซีเคอาร์ อินเทลลิเจนท์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ZEEKR Intelligent Technology) จึงเล็งเห็นโอกาสและเปิดตัวแบรนด์ “ZEEKR (ซีเคอร์)” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมประกาศราคา ZEEKR X วางตำแหน่งเป็นโกลบอล พรีเมียม คอมแพค เอสยูวี

 

ZEEKR Intelligent Technology เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 วางรากฐานการเป็น A Luxury Technology Brand for a New Era โดยสร้างความสำเร็จระดับโลกในระยะเวลาเพียง 29 เดือน ZEEKR สามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 240,000 คันทั่วโลก

 

 

นับเป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับที่เหนือความคาดหมายในระดับสากล ล่าสุดประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นของบริษัทให้กับสาธารณะชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี พ.ศ. 2567

 

เฉิน หยู (มาร์ส) Vice President of ZEEKR Intelligent Technology เปิดเผยว่า ZEEKR ใช้เวลาเพียง 2 ปีในการส่งมอบรถยนต์ครบ 100,000 คัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ZEEKR กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เรากำลังสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ก้าวล้ำยุค และการบูรณาการพลังการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเข้ากับแนวทางที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง

 

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี เปลี่ยนนิยามของการขับขี่ด้วยประวัติอันยาวนานด้านนวัตกรรมและความมุ่งมั่นในความพึงพอใจของลูกค้า ZEEKR จึงนับเป็นแบรนด์พร้อมที่จะส่งมอบสุดยอดประสบการณ์ของการเดินทาง สู่ยุคสมัยที่เทคโนโลยี ดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ระดับลักชูรี สามารถสอดประสานเข้ากันได้อย่างกลมกลืน

 

เป่า จ้วงเฟย (อเล็กซ์) ZEEKR Intelligent Technology Head of Southeast Asia Region กล่าวว่า สำหรับตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ZEEKR จะช่วยเข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ พรีเมียม-ลักชูรี ซึ่งจากการพิสูจน์ในตลาดทั่วโลกทำให้มั่นใจได้ว่า ประสบการณ์ของผู้ใช้ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ได้สร้างความประทับใจขั้นสูงสุด

 

เมื่อรวมกับอีโคซิสเต็มด้านการบริการอันหลากหลายที่ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ทุกด้านของผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในตลาดระดับโลก

 

วันนี้ เราจะนำเสนอทั้งหมดนี้ให้แก่คนไทยเช่นกัน เรามองเห็นโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการขาย และการบริการหลังการขายผ่านดีเลอร์รายใหญ่กว่า 6 ราย มี ZEEKR House 14 แห่งและจะขยายเพิ่มอีกกว่า 20 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเราตั้งเป้ายอดขายมากกว่าสองพันคันภายในสิ้นปี 2567 นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของลูกค้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชูรี

 

 

ZEEKR X เป็นรถเอสยูวีหรูหราขนาดกะทัดรัดที่สร้างขึ้นมาเพื่อไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน เป็นรถคู่ใจที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัยและครอบครัวที่กำลังมองหาการเดินทางเพื่อสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง ZEEKR ได้ผสมผสานการควบคุมการขับขี่ขั้นสุดยอด กับนวัตกรรมขับเคลื่อนแห่งโลกอนาคต จากพละกำลังจากระบบมอเตอร์คู่ 315kW (428 hp) แรงบิดสูงสุด 543 Nm อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 3.8 วินาที

 

แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 67 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC โดดเด่นด้วยระบบสลับโหมดการขับเคลื่อนอัจฉริยะ (Lightning Switch AWD System) ระหว่างสองล้อและสี่ล้อได้ภายในเสี้ยววินาที ปลอดภัยขั้นสุดด้วยผลการทดสอบความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ตามมาตรฐาน EURO NCAP

 

ZEEKR X ออกแบบตัวรถให้มีขนาด ความกว้าง x ความยาว x ความสูง 4,432 mm x 1,836 mm x 1,566 mm ระยะฐานล้อ 2,750 mm ซึ่งเป็นขนาดสมมาตรทุกมิติสำหรับรถคอมแพคเอสยูวี โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด สรรสร้างให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น ความโค้งมนดุจแสงแห่งรุ่งอรุณ กระจกมองข้างแบบไร้กรอบ ดีไซน์ที่จับประตูแบบ Hidden Capacitive Sensing Door Handles ช่องชาร์จไฟที่เรียบสนิทไปกับตัวรถ

 

ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ไฟท้ายแบบ LED พร้อมสัญลักษณ์ ZEEKR แบบสามมิติ การออกแบบภายในที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของหลังคากระจกพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร พร้อมสัมผัสแสงธรรมชาติที่สาดส่องเข้ามาในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสี Rose Gold ทั่วทั้งคัน

 

ไม่ว่าจะเป็นสวิชต์หน้าต่าง ปุ่มเปิดประตู หรือแม้แต่ Hook สำหรับแขวนแจ็คเก็ต หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว มาพร้อมกับชิป 8155 จาก Qualcomm Snapdragon เพื่อรองรับการประมวลผลอย่างรวดเร็ว และเพราะความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจออกแบบ ZEEKR จึงใช้วัสดุคุณภาพสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่สะอาดกว่า

 

 

ZEEKR มองเห็นอนาคตของการขับเคลื่อนที่มีความชาญฉลาด เป็นมิตร มั่นใจ และปรับเปลี่ยนได้ ด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงแห่งอนาคตที่จะนำพาผู้ใช้งานไปสู่ที่หมายตามต้องการได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายกับนวัตกรรมการขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรมทางประสบการณ์ที่ยั่งยืน (Sustainable Experience Architecture – SEA)

 

รวมถึง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ZEEKR Advanced Driving Assistance System – ZEEKR AD) ด้วยกล้องความละเอียดสูง 5 ตัว เรดาร์ความยาวคลื่น 5 มิลลิเมตร และ เรดาร์อัลตราโซนิค12 ตัว รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ (Automatic Lane Change – ALC) ระบบรักษาตำแหน่งในเลน (Lane Centering Control – LCC) ระบบแจ้งเตือนวัตถุในจุดบอด (Blind Spot Detection – BSD)

 

ระบบแสดงภาพรอบตัวรถ (Around View Monitor – AVM) หนึ่งในจุดเด่นก็คือ โครงสร้างแบบ SEA Platform ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ZEEKR ที่จะช่วยทั้งในด้านการขับขี่ สมรรถนะ การทรงตัว รวมถึงการลดเสียงรบกวนที่อาจเกิดขึ้นตามจุดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีเยี่ยม

 

เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นกับ Lightning Switch Intelligent AWD System หรือระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ AWD อัตโนมัติเพียงแค่เสี้ยววินาที เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้ ช่วยให้การขับขี่เกิดความคล่องตัวแต่ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดนั่นเอง

 

“ZEEKR X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่มันคือปรากฏการณ์ระดับโลก นี่คือ Global Premium Compact SUV เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของความกล้าที่จะแตกต่าง มันไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม เป็นตัวแทนของโลกที่เชื่อมโยงกันด้วยความตื่นเต้นเร้าใจของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า”

 

ZEEKR X มาพร้อม 5 โทนสีที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ได้แก่ สีขาว Crystal White สีครีม Palace Beige สีเขียว Pine Green สีเทาเข้ม Grid Grey และสีเทาพิเศษ Mist Grey

 

 

โดย ZEEKR X มาทำตลาดในไทยทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังการขับขี่ 272 แรงม้า และระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน

 

ทั้งไฟหน้าแบบ Full LED , Panoramic Glassroof ล้อขนาด 18 นิ้ว และที่โดดเด่นคือ ระบบความปลอดภัยทั้งหมดที่กล่าวมานั้นมีให้ครบตั้งแต่รุ่น Standardราคา 1,199,000 บาท

 

และรุ่น Flagship ซึ่งเป็นรุ่นที่โดดเด่นด้าน Performance จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงถึง 428 แรงม้า และระยะทางการขับขี่ที่ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง โดยรุ่น Flagship จะมีอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น

 

ไม่ว่าจะเป็น ล้อแบบ Forged Wheelขนาด 20 นิ้ว AR HUD, ไฟ Ambient Light และระบบเสียงรอบทิศทางจาก YAMAHA ทั้งหมด 13 ตำแหน่ง ราคา 1,349,000 บาท

 

พร้อมโปรโมชั่นพิเศษประกันภัยชั้น 1 พร้อมการรับประกัน ตัวรถ 5 ปี หรือ150,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน การรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ180,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และบริการ Mobile Service

 

พิเศษสำหรับลูกค้าคนสำคัญ 500 ท่านแรก ที่จองและรับรถภายในสิงหาคม 2567 นี้ รับฟรี Wallbox จาก “VREMT” พร้อมแพคเกจติดตั้ง มูลค่า 50,000 บาท สามารถจองและชมรถได้จาก POP UP ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Emsphere, Central Westgate, The Mall Bangkae และ Central Rama 2 และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของทาง ZEEKR ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Scroll to Top