aCommerce เปิดตัวแพลตฟอร์มข้อมูลใหม่ใช้ Generative AI พัฒนาบนระบบ AWS เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon.com ได้ประกาศวันนี้ถึงการร่วมมือกับบริษัท aCommerce ผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเปิดตัวบริการใหม่ที่นำเทคโนโลยี Generative AI เช่นฟีเจอร์ ASKIQ มาใช้ในชุดโปรแกรม Market Insights บนระบบ AWS Market Insights ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม SaaS ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการแข่งขันและประสิทธิภาพของหมวดหมู่สินค้าจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก
Market Insights สามารถนำเสนอแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์รายงานแบบโต้ตอบสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของคู่แข่ง ราคา ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม ความรู้สึกของลูกค้า โปรโมชัน และสิ่งสำคัญคือส่วนแบ่งการตลาดของตนเอง ช่วยให้ผู้ขายค้นพบรูปแบบ ระบุแนวโน้ม สามารถปรับแต่งแคมเปญให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลได้
AskIQ เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลอีคอมเมิร์ซแห่งแรกในภูมิภาคที่ใช้ Generative AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลให้กับผู้ขาย ด้วย AskIQ บริษัทอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถสอบถามข้อมูลของคู่แข่งมากกว่า 1 แสนล้านจุดข้อมูล รวมถึงประสิทธิภาพของหมวดสินค้า แนวโน้มตลาด ราคาของคู่แข่ง และสินค้าขายดีโดยใช้ภาษาธรรมชาติ
ความสามารถในการขยายขนาด ความคล่องตัว และความรวดเร็วของ AWS ช่วยให้ AskIQ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลนับร้อยเทราไบต์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที จึงสามารถมอบมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับแบรนด์ หมวดสินค้า หรือประสิทธิภาพของคู่แข่งให้กับผู้ขายอีคอมเมิร์ซได้อย่างรวดเร็ว การสร้างโซลูชันบน AWS ช่วยให้ลูกค้าอย่าง Nestle เพิ่มยอดขายได้ถึง 71% ต่อปีบน Lazada และมากกว่าเท่าตัวบน Shopee ส่วน Babi Mild ผู้นำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กในประเทศไทย ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 59% บน Shopee ภายในระยะเวลา 12 เดือน
Vijay Sarathi Gollapalli ผู้จัดการฝ่ายวิจัยด้านข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจค้าปลีก บริษัท IDC Asia/Pacific กล่าวว่า Generative AI ไม่ได้เพียงแต่ช่วยจัดการให้ระบบงานดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ แต่ยังช่วยเพิ่มความเป็นอัจฉริยะในช่องทางอื่น ๆ ของอีคอมเมิร์ซอีกด้วย ตั้งแต่การนำเสนอสินค้าที่มีความเฉพาะกับแต่ละบุคคล ไปจนถึงการจัดการสินค้าในคลังอย่างชาญฉลาด เพื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการปลดล็อคศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
Generative AI เสริมข้อได้เปรียบด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า การคาดการณ์ความต้องการของตลาด และสร้างประสบการณ์ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าประจำ การนำข้อมูลของลูกค้ามาใช้ เช่น สินค้าที่พวกเขาซื้อ วิธีการเลือกสินค้า และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ธุรกิจสามารถปรับแต่งกลยุทธ์การตลาดเพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย
อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเติบโตจาก 1.94 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 3.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั่วภูมิภาคต้องเผชิญกับปริมาณข้อมูลที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจธุรกิจของตนเองได้ดียิ่งขึ้น aCommerce จึงได้สร้างแพลตฟอร์ม Market Insights ขึ้นพร้อมกับ AskIQ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร ที่สามารถแปลงข้อมูลให้เป็นเนื้อหาที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ในรูปแบบที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับข้อกำหนดของผู้ขายแต่ละราย
ด้วยความสามารถเทคโนโลยี Generative AI ของ AWS AskIQ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแดชบอร์ดวิเคราะห์ข้อมูลตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยการตั้งถามคำถามเป็นภาษาธรรมชาติง่าย ๆ เช่น “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ขายดีที่สุดบนชอปปี้ในไตรมาสที่แล้วคืออะไร?” ระบบ AI จะทำการวิเคราะห์แนวโน้มของผู้บริโภค ราคา ประสิทธิภาพของคู่แข่ง และข้อมูลสินค้า เพื่อนำเสนอภาพรวม โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านเทคนิคเลย
aCommerce ใช้บริการของ Amazon Redshift ซึ่งเป็นคลาวด์ดาต้าแวร์เฮาส์ เพื่อจัดเก็บข้อมูล เช่น ราคาสินค้า รีวิวจากผู้บริโภค และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่นๆ
aCommerce สร้างแดชบอร์ดธุรกิจที่ให้ผู้ใช้สามาถสื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ ด้วยบริการ Amazon Q in QuickSight ซึ่งเป็นผู้ช่วย Generative BI Assistant ที่ช่วยสร้างรายงานและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านอีคอมเมิร์ซผ่านแดชบอร์ดที่กำหนดเองได้ และเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยี Generative AI เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำที่แม่นยำและตรงจุด
ลีนา จันทร์วิรัช รองประธานและหัวหน้าภูมิภาคฝ่ายข้อมูลและการวิเคราะห์ของกลุ่มบริษัท aCommerce กล่าวว่า การร่วมมือกับ AWS ทำให้ลูกค้าของเราสามารถโฟกัสไปที่ความสามารถและธุรกิจหลักของตนได้อย่างเต็มที่ และในขณะเดียวกันสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมของปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลเชิงลึกบนแพลตฟอร์มของเราสำหรับการวิเคาะห์และทำการตัดสินใจในเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีข้อมูลรองรับ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การวางแผนธุรกิจและการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งลูกค้าเราจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากรอบด้าน และมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันโดยไม่ต้องรับภาระในการสร้างและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่ซับซ้อนด้วยตนเอง
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำประเทศไทยของ AWS กล่าวว่า อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และผู้นำในอุตสาหกรรมต่างพึ่งพาเทคโนโลยีคลาวด์หากต้องการมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ในตลาดที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา aCommerce เป็นลูกค้าอีกรายที่ได้สร้างโซลูชันที่มีความชาญฉลาดบน AWS ทำให้การทำความเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนง่ายและรวดเร็ว ช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลความต้องการของลูกค้าเพื่อให้บริการที่ดีที่สุด Generative AI กำลังเปลี่ยนมุมมองและวิธีในการใช้ข้อมูลของเรา และ aCommerce เองก็ได้นำเทคโนโลยีนี้มาสร้างประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับลูกค้า
AWS มีพันธสัญญาระยะยาวต่อลูกค้าและชุมชนในประเทศไทย โดยได้ให้คำมั่นที่จะลงทุนมากกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในระยะเวลา 15 ปี และได้ฝึกอบรมทักษะด้านคลาวด์ให้กับคนไทยมากกว่า 50,000 คนนับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา
