7-Eleven ทั่วประเทศ รับชำระเงินด้วย “อาลีเพย์พลัส”

Spread the love

 

7-Eleven กว่า 14,500 สาขาทั่วประเทศพร้อมรับชำระเงินด้วยอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่านแอป Alipay+ ยกระดับใช้จ่ายแบบไร้เงินสดอย่างแท้จริง

 

เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) เพิ่มตัวเลือกช่องทางการชำระเงินผ่าน 13 อี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ผู้ให้บริการด้านธุรกรรมการชำระเงินแบบดิจิทัลระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มการตลาด บริหารงานโดย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยวที่ เซเว่น-อีเลฟเว่นในกว่า 14,500 สาขา ทั่วประเทศ

 

โดยการให้บริการดังกล่าวคือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยมี เคาน์เตอร์ เซอร์วิส (Counter Service) เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อการบริการระหว่าง อาลีเพย์พลัส และเซเว่น-อีเลฟเว่น เข้าด้วยกัน

 

เมื่อเร็วๆ นี้ อาลีเพย์พลัสได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรผู้ให้บริการอี-วอลเล็ทต่างประเทศเพื่อรองรับการชำระเงินค่าสินค้าที่เซเว่น-อีเลฟเว่นในประเทศไทย โดยอี-วอลเล็ทที่รองรับการชำระเงินได้แก่ MyPB by Public Bank Berhad จากมาเลเซีย, Naver Pay และ Toss Pay จากเกาหลีใต้, Changi Pay และ OCBC Digital จากสิงคโปร์ , GCash จากฟิลิปปินส์, Hipay จากมองโกเลีย , MPay จากเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, และ Tinaba จากอิตาลี

 

อี-วอลเล็ท อาลีเพย์ (Alipay) จากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยได้มาตั้งแต่ปี 2015 ในขณะที่ AlipayHK จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, Kakao Pay จากเกาหลีใต้ และ Touch ‘n Go eWallet จากมาเลเชีย เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

 

เทศกาลตรุษจีนซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 1 ล้านคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 28.4 พันล้านบาท (หรือราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศมากที่สุดในช่วงเทศกาลดังกล่าวคือนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ และนักท่องเที่ยวจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

 

วีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ระบบเทคโนโลยีการชำระเงินชั้นนำระดับโลกที่เชื่อถือได้ ได้เสริมประสิทธิภาพและขอบเขตการให้บริการช่องทางการชำระเงินแบบดิจิทัลสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คน

 

โดยให้บริการด้านการเงิน การชำระเงินค่าประกัน ค่าบัตรเข้าชมกีฬาและคอนเสริต ชำระเงินเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ และจากกระแสความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มขึ้น เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ได้มีการวางระบบเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว และพร้อมเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อเพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เดินทางมาจากทั่วโลกด้วยช่องทางการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยว

 

ปัจจุบัน อาลีเพย์พลัส ให้บริการใน 57 ประเทศ โดยเชื่อมโยงผู้ค้ากว่า 88 ล้านรายทั่วโลกเข้ากับบัญชีผู้ใช้ 1.5 พันล้านบัญชีผ่านอี-วอลเล็ท และแอปชำระเงินชั้นนำกว่า 25 รายการ ในประเทศไทย อาลีเพย์พลัสเดินหน้าเพิ่มเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันร้านค้าพันธมิตรนั้นครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ ห้างสรรพสินค้าในเครือ เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, เดอะ มอลล์ กรุ๊ป และร้านค้าแบรนด์ไทยยอดนิยมอย่าง คิงเพาเวอร์ และจิม ทอมสัน

 

สิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ประเทศไทยคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเรารู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล และทำงานร่วมกับร้านค้า

 

รวมถึงพาร์ทเนอร์อย่างกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียนมาประเทศไทย ผ่านความสะดวกและสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่ไร้กังวลให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งเพื่อช่วยธุรกิจในประเทศให้สามารถสร้างรายได้ผ่านการเติมโตด้านการท่องเที่ยวและเพื่อเป็นการตอบรับเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังดำเนินอยู่ อาลีเพย์พลัส ร่วมกับ เซเว่น-อีเลฟเว่น ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้งานแอปอาลีเพย์พลัส ด้วยคูปองส่วนลดกว่า 50%

Scroll to Top