พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (ลธ.กมช.) เข้ารับรางวัล “เกียรติยศจักรดาว” ประจำปี 2567 สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นรางวัลที่ทางมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหารจัดขึ้น
เพื่อเชิดชูเกียรติให้กับศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารที่สร้างคุณูปการให้แก่ประเทศชาติ และยกย่องในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองและเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ข้าราชการทหารในสาขาต่างๆ
พลอากาศตรี อมร ชมเชย สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ โรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐอเมริกา เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 28 นักเรียนนายเรืออากาศรุ่นที่ 35 และวิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 51
ในระหว่างรับราชการได้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ คือ ผู้อำนวยการกองสงครามไซเบอร์ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทหารอากาศ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการไซเบอร์ ศูนย์ไซเบอร์กองทัพอากาศ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แห่งชาติ รองเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติ
และปัจจุบัน เลขาธิการคณะการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ซึ่งมีผลงานที่สำคัญทั้งด้านการบริหารและการทำงานระดับประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนางานด้านไซเบอร์ของกองทัพอากาศ และบทบาทสำคัญในการร่วมเข็นครกขึ้นภูเขา จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จากผลงานที่เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ทำให้ท่านได้รับรางวัลมากมาย
ทั้งในไทยและต่างประเทศ อาทิ บุคคลดีเด่นกองทัพอากาศปี 2549 และ 2562 ศิษย์เก่าดีเด่นวิทยาลัยการทัพอากาศ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ 2566 บุคคลดีเด่นชุมนุมนายเรืออากาศ ประจำปี 2566 ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ ประจำปี 2566
และรางวัล CSO30 ASEAN Awards 2023 สุดยอด 30 ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งอาเซียน จาก CSO ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่ให้บริการข้อมูลข่าวสาร บทวิเคราะห์ และงานวิจัยด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการความเสี่ยง ณ ประเทศสิงคโปร์
รางวัลเกียรติยศจักรดาวนี้ เป็นความภาคภูมิใจจากหนึ่งในนายทหารหัวกะทิของทัพฟ้า มาสู่แนวรบไซเบอร์ของชาติ ซึ่งท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยจะยึดมั่นและยืนหยัดใช้ความรู้ ความสามารถ อุทิศกำลังกาย กำลังความคิด ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ บทบาทสำคัญที่ต้องดำเนินต่อไป คือ การนำทัพผู้คุมความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ เร่งขับเคลื่อน สกมช. ให้เป็นพลังสำคัญ เติบโตเท่าทันกับสถานการณ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ทุกมิติ เสริมแกร่งการทำงานแบบ Proactive protection
พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยง ให้กับหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรและกำลังคนด้านไซเบอร์ให้เทียบเท่าระดับสากล เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และเป็นหลักประกันความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนและประเทศชาติต่อไป
