ออมสินและซีไอเอ็มบีไทยใช้ “เร้ดแฮท” ยกระดับองค์กร

Spread the love

 

การนำองค์กรก้าวเข้าสู่ดิจิทัล สิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเปลี่ยนผ่านคือการเลือกใช้โซลูชัน รวมไปถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่สามารถเชื่อมโยงให้การใช้งานดิจิทัลต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและผสานกับการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์หรือลูกค้าได้อย่างไร้รอยต่อ

 

Techmoveon ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารของ ธนาคารออมสิน (GSB) ที่ได้ใช้โอเพ่นซอร์สของเร้ดแฮท ในการพัฒนาคลาวด์-เนทีฟ เพื่อพาให้ธนาคารสามารถให้บริการทางการเงินให้กับลูกค้า และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMB Thai) ในการใช้เร้ดแฮท เพื่อพัฒนา Digital Transformation และ Hybrid Cloud Infrastructure

 

นายบุญสน เจนชัยมหกุล รองผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารออมสิน (GSB) กล่าวว่า ธนาคารออมสิน (GSB) เป็นรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินธุรกิจด้านสถาบันการเงิน มีสาขา 1,060 แห่งทั่วประเทศ และให้บริการลูกค้ามากกว่า 22 ล้านราย

 

กลุ่มลูกค้าของธนาคารประกอบด้วยลูกค้าบุคคล องค์กรธุรกิจ และภาครัฐ ให้สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างโอกาสในอนาคตให้กับคนไทย

 

 

ธนาคารให้บริการทางดิจิทัลที่หลากหลาย เช่น การสอบถามยอดเงินคงเหลือในบัญชี การโอนเงินระหว่างธนาคารด้วยการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ และการชำระค่าบริการต่าง ๆ ด้วยการใช้บาร์โค้ดผ่านแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง และโมบายแบงค์กิ้ง

 

“คนต่างจังหวัดเวลาเดินทางมาสาขาใช้เวลามาก เราจะทำอย่างไรให้การใช้ดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสการเข้าถึง เราทำให้ลูกค้าสามารถค้นหาว่าเราใช้จ่ายอะไรไป ใช้เรื่องอะไรมากที่สุด ลูกค้าของเรามีหลากหลาย บางกลุ่มยังไม่สามารถเข้าถึงดิจิทัลได้ เราจึงพัฒนาให้ตอบทุกโจทย์โดยไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง”

 

ดังนั้น GSB จำเป็นต้องเร่งให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของธนาคารออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นท่ามกลางความสนใจของลูกค้าที่มีต่อบริการด้านการเงินในรูปแบบดิจิทัลที่ต้องมีความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์นี้

 

ธนาคารได้ริเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มโอเพ่นแบงค์กิ้งที่สามารถโฮสต์ APIs ของตนเอง และให้บริการด้านการบริหารจัดการ (managed services) ให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งรัดกุม

 

GSB ได้โยกย้ายระบบของธนาคารไปใช้โอเพ่นซอร์สที่ทำงานอยู่บน Red Hat Enterprise Linux, Red Hat Application Runtimes, Red Hat 3Scale API Management, Red Hat JBoss Fuse และ Red Hat OpenShift ด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือทางด้านเทคนิคจาก Red Hat Consulting

 

การใช้ APIs ที่มีขนาดเล็กลงด้วยไมโครเซอร์วิส การที่ทีมพัฒนาและทีมปฏิบัติการ (DevOps) และเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ต่าง ๆ ทำงานอยู่บนสภาพแวดล้อมเดียวกัน เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงาน ช่วยให้ GSB สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สามารถเปิดตัวบริการดิจิทัลแบงค์กิ้งใหม่ ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ส่งบริการใหม่สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว และมีความคล่องตัวทางธุรกิจ GSB สามารถให้บริการที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมผ่านการใช้แพลตฟอร์มที่ทันสมัยเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าของธนาคาร

 

ด้าน นายสถาปนิก สีพรม ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMB Thai) กล่าวว่า CIMB Thai มีวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารดิจิทัลระดับแนวหน้าในอาเซียน และมุ่งมั่นสร้างองค์กรให้เป็นธนาคารที่มีสมรรถนะสูงอย่างยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างความก้าวล้ำให้ลูกค้าและสังคม

 

ผ่านบริการทางการเงินที่ดีที่สุดในแต่ละด้าน รวมถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายของธนาคารในอาเซียน และด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด ปัจจุบันธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศไทย

 

เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารดิจิทัลระดับแนวหน้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลจำนวนมาก ธนาคารจึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการต่าง ๆ ในรูปแบบธนาคารดิจิทัล เช่น การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payments) และบริการโอนเงินระหว่างธนาคาร เป็นต้น

 

 

ทั้งนี้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของธนาคารฯ จำเป็นต้องมีวงจรในการพัฒนาให้รวดเร็วขึ้น รองรับปริมาณเวิร์กโหลดที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถสร้างและปรับขนาดแอปพลิเคชันใหม่ ๆ และส่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ธนาคารฯ จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องนำแพลตฟอร์มใหม่ด้านธนาคารดิจิทัลมาใช้

 

โดย Red Hat OpenShift และ Red Hat OpenShift on AWS (ROSA) เป็นโซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้บริการด้านธุรกรรมการเงินของธนาคารมีความคล่องตัว ปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการ และมีความยืดหยุ่น สามารถรองรับปริมาณงานพัฒนาแอปพลิเคชันจำนวนมากทั้งบนระบบคลาวด์และในระบบภายในองค์กรได้

 

โซลูชันดังกล่าว ช่วยให้ธนาคารฯ สามารถทำการพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชัน รวมทั้งบริการด้านธนาคารดิจิทัลใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลถึงการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

 

การสร้างฟังก์ชั่นทางธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่โซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สมีให้อีกด้วย

 

“ทั้งนี้ด้วยความเป็นดิจิทัลแบงก์ เราเน้นการนำดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้าถึงดิจิทัลด้วยความปลอดภัย และมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาแบบไม่รู้จบ เพื่อป้องกันการโจมตีตลอดเวลา ถ้ามีปัญหาแล้วจะตอบสนองให้ได้เร็ว ซึ่งธนาคารมองเรื่องนี้เป็นนโยบายแรกที่ต้องเข้ามาดูแล และเร้ดแฮทก็มีโซลูชันเหล่านี้มาช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี”

Scroll to Top